ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย

ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ข้อความที่เริ่มโดย: ทนายพร ที่ ธันวาคม 02, 2013, 03:07:55 pm

หัวข้อ: อยากฟ้องหย่าสามีที่แยกกันอยู่มานานแล้ว ต้องทำอย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ทนายพร ที่ ธันวาคม 02, 2013, 03:07:55 pm
เนื่องจากสามีไม่เคยส่งค่าเลี้ยงดูบุตร และยังมีภรรยาใหม่แล้ว แต่สามีไม่ยอมหย่าให้
หัวข้อ: Re: อยากฟ้องหย่าสามีที่แยกกันอยู่มานานแล้ว ต้องทำอย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: ทนายพร ที่ ธันวาคม 02, 2013, 03:09:34 pm
การอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา เป็นเหตุฟ้องหย่าตามกฎหมายที่คนเป็นภรรยาจะกล่าวอ้างได้ และยังสามารถเรียกค่าทดแทนทั้งจากสามีและหญิงคนดังกล่าว ฐานที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวได้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งเป็นไปตามความประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (1) ที่บัญญัติว่า “สามีหรือภริยา อุปการะเลี้ยงดู หรือ ยกย่อง ผู้อื่น ฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้ หรือ มีชู้ หรือ ร่วมประเวณีกับผู้อื่น เป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้”  และมาตรา 1516 (4) สามีหรือภริยา จงใจละทิ้งร้าง อีกฝ่ายหนึ่งไป เกิน หนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งนั้น ฟ้องหย่าได้


อีกทั้งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1523 ก็ได้บัญญัติไว้อีกว่า

เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากัน เพราะเหตุ ตาม มาตรา 1516 (1) ภริยาหรือสามี มีสิทธิได้รับ ค่าทดแทน จากสามีหรือภริยา และจากผู้ซึ่ง ได้รับการอุปการะเลี้ยงดู หรือ ยกย่อง หรือ ผู้ซึ่งเป็น เหตุแห่งการหย่านั้น

สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินภริยา ไปในทางชู้สาวก็ได้ และ ภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่น ที่แสดงตน โดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้

ถ้าสามีหรือภริยา ยินยอม หรื รู้เห็นเป็นใจ ให้อีกฝ่ายหนึ่ง กระทำการ ตาม มาตรา 1516 (1) หรือ ให้ผู้อื่น กระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้น จะเรียกค่าทดแทน ไม่ได้

แปลว่า เราสามารถเอาผิดกับชู้ได้ แต่ต้องมีพยานหลักฐานแสดงให้ศาลเห็นว่า สามีมีชู้จริงและการกระทำดังกล่าวของชู้  เป็นการแสดงตนว่ามีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามีของเรา  จึงจะสามารถเรียกค่าทดแทนจากชู้ได้ 

ทั้งนี้คดีฟ้องหย่าเป็นคดีครอบครัว การพิจารณาพิพากษาคดีครอบครัว กำหนดให้ศาลต้องพยายามเปรียบเทียบให้คู่ความได้ตกลงกัน หรือประนีประนอมกันในข้อพิพาท โดยคำนึงถึงหลักการสงวนและคุ้มครองสถานภาพของการสมรสในฐานะที่เป็นศูนย์รวมของชายและหญิงที่สมัครใจเข้ามาอยู่ด้วยกันฉันสามีภริยา หากไม่อาจรักษาสถานภาพของการสมรสได้ก็ให้การหย่าเป็นไปด้วยความเป็นธรรม และเสียหายน้อยที่สุด โดยคำนึงถึงสวัสดิภาพและอนาคตของบุตรเป็นสำคัญ ทั้งนี้ตาม พรบ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 146(1)


อ่านคำพิพากษาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ http://www.thanaiphorn.com/content.php?type=1&id=58