29/03/24 - 18:09 pm


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ทนายพร

หน้า: [1] 2 3 ... 50
1

   ไม่กี่วันมานี้ ทนายได้รับโทรศัพท์สอบถามวิธีคืนรถยนต์แล้วไม่ถูกฟ้องเรียกค่าส่วนต่างต้องทำอย่างไรไม่ต่ำกว่า 10 สาย ซึ่งก็ได้แนะนำวิธีการและขั้นตอนไป แต่ก็ยังมีคำถามเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ อย่ากระนั้นเลย เอาเป็นว่าทนายขอแนะนำและบอกขั้นตอนการคืนรถกรณีที่ผ่อนไม่ไหว หากดำเนินการเช่นนี้จะไม่ต้องเสียค่าส่วนต่างแน่นอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ถูกฟ้องนะครับ เพราะการฟ้องเป็นสิทธิที่จะฟ้องได้ เมื่อถูกฟ้องแล้วท่านต้องไปศาลให้การต่อสู้ว่าไม่ได้ผิดสัญญาและแน่นอนว่าแนวคำพิพากษาศาลฎีกาได้วางแนวไว้แล้วว่ากรณีการคืนรถตามขั้นตอนนี้ไม่ต้องเสียส่วนต่าง
   มาดูกันเลย อย่างแรก ๑. ท่านต้องนำรถไปตรวจสภาพก่อนว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้หรือไม่หากอะไรที่เสียหายก็ไปทำให้ใช้งานได้ แต่ไม่ต้องถึงขนาดเอาเหมือนป้ายแดง เอาแค่สภาพปกติก็พอ แน่นอนว่าเวลาใช้รถก็จะเสื่อมสภาพตามกาลเวลา หากได้หนังสือยืนยันสภาพจากศูนย์บริการก็จะดีมาก
   ๒.เมื่อรถพร้อมแล้ว ก็ให้ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญา ขอคืนรถ ย้ำต้องทำเป็นหนังสือ ส่งไปยังบริษัทไฟแนนท์ นัดหมายวัน เวลา และสถานที่ให้เรียบร้อย โดยให้ส่งด้วยวิธีลงทะเบียนตอบรับและเก็บใบตอบรับไว้ และอย่าลืมถ่ายสำเนาเก็บไว้ด้วยนะ มีคำถามต่อว่า “ทนาย...แล้วเขียนยังงัยอ่ะหนังสืออ่ะ?” อย่ากระนั้นเลย ทนายจะแนบตัวอย่างให้ละกัน..จบนะ...
   ๓. เมื่อถึงวันนัดหมายก็นำรถยนต์ไปคืน หากบริษัทไฟแนนท์มารับคืนก็ให้ทำบันทึกไว้ว่าเราคืนรถในสภาพสมบูรณ์ขับขี่ได้ปกติ แล้วถ่ายรูปไว้ ส่วนเอกสารที่บริษัทไฟแนนท์ทำมาให้ทำนองว่า จะต้องรับผิดชอบส่วนต่างก็ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวค่อยไปว่ากันทีหลังให้ไฟแนนท์รับรถคืนไปก่อน
มีคำถามต่อว่า ท่านทนาย แล้วเมื่อถึงวันนัดหมายแล้วไฟแนนท์ไม่ติดต่อมาไม่ยอมรับคืนล่ะทำงัย? ก็ให้ไปที่สถานีตำรวจไปลงบันทึกประจำวันว่าเราได้ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว แต่ไฟแนนท์ไม่ยอมมารับรถคืนแล้วขอบันทึกประจำวันมา เอาไปถ่ายเอกสารเพิ่มอีกซัก ๑ ใบ จากนั้นไปต่อ
        ๔. เดินทางพร้อมรถยนต์ไปที่ “สำนักงานวางทรัพย์ กรมบังคับคดี” ในพื้นที่ ซึ่งสามารถสืบค้นได้ทาง Google เลย เมื่อไปถึงก็ไปติดต่อขอ “แบบฟอร์มคำร้อง” วางทรัพย์ หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ก็ได้ ซึ่งก็จะมีคำแนะนำและขั้นตอนต่างๆ และให้เตรียม สำเนาหนังสือขอยกเลิกสัญญาเช่าซื้อและใบแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ติดไปด้วยเพื่อประกอบการยื่นขอวางทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะมีการถ่ายรูป โน่น นี่ นั้น พร้อมเก็บเงินค่าธรรมเนียม หลักร้อยต้นๆ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หากมีที่จอดเจ้าหน้าที่ก็อาจจะให้จอดที่นั่นเลยหรือถ้าไม่มีก็จะให้เราเอาไปเก็บรักษาเอง เราก็อย่าเอามาใช้ละกันเดี่ยวจะมีปัญหา ซึ่งขั้นตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็จะมีหนังสือไปถึงไฟแนนท์ให้มารับรถคืนตามขั้นตอนต่อไป เป็นอันจบ
       ๕. คืนแล้วจะไม่ถูกฟ้องแน่นะทนาย???  ก็บอกแล้วงัยว่าการฟ้องเป็นสิทธิของไฟแนนท์ เมื่อไฟแนนท์ฟ้องเราก็ต่อสู้ดิ ไม่เห็นยาก โดยทำคำให้การจำเลยให้การต่อสู้ว่าเราไม่ได้ผิดสัญญา ขอให้ศาลยกฟ้องและให้จ่ายค่าทนายความแทนเราด้วย ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็ให้ท่านหาทนายไปสู้คดีแทนท่านซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะมีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาวางแนวไว้อยู่แล้ว
       เอาตัวอย่างหนังสือขอยกเลิกสัญญาไป
                                                                                     (ตัวอย่าง)
                                                                          หนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ
                                                                     วันที่.......เดือน..........พ.ศ.........
เรื่อง      บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ ขอคืนและส่งมอบรถยนต์คืน
เรียน      กรรมการผู้จัดการ.....(ชื่อบริษัทไฟแนนท์ โดยดูได้ในสัญญา)....
อ้างถึง   สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ ฉบับลงวันที่.......
      ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์กับธนาคาร.........โดยเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อ.....รุ่น.....สี.....หมายเลขทะเบียน.......เลขเครื่องยนต์.....เลขตัวรถ.......กับท่านตามสัญญาที่อ้างถึง รายละเอียดท่านทราบดีอยู่แล้วนั้น
      ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และข้าฯมีภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นและ....(จะอ้างเหตุอะไรก็ระบุไป) ส่งผลกระทบทำให้ข้าฯอาจจะไม่สามารถที่จะชำระค่าเช่าซื้อในส่วนที่เหลือได้
      ดังนั้น โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าฯจึงขอบอกกล่าวขอบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อโดยขอคืนและส่งมอบรถยนต์คันดังกล่าวตามสัญญาเช่าชื้อที่อ้างถึงคืนให้แก่ท่าน และข้าฯขอนัดหมายส่งมอบรถยนต์คันดังกล่าวคืนท่านในวันที่......เดือน.......พ.ศ..... ณ .......(จะคืนที่ใหนก็ระบุสถานที่ไป) ตำบล....อำเภอ....จังหวัด...เวลา.....(ไปให้ตรงเวลานะและถ่ายรูปไว้).... ทั้งนี้ ให้ท่านหรือผู้แทนท่านซึ่งมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการ หรือติดต่อประสานงานมายังข้าฯก่อนวันนัดหมายไม่น้อยกว่า ๓ วันเพื่อนัดหมายส่งมอบและรับรถยนต์คืนต่อไป ทั้งนี้ หากท่านได้รับหนังสือฉบับนี้แล้วท่านละเลยเพิกเฉย ไม่ไปรับมอบรถยนต์ตามวัน, เวลาและสถานที่ข้างต้น หรือไม่ติดต่อประสานงานมายังข้าฯ ให้ถือว่าท่านไม่ปฎิเสธการรับรถยนต์คืนอันจะยกเป็นเหตุเพื่อปฎิเสธในการบอกเลิกสัญญาของผู้เช่าซื้อได้
      จึงบอกกล่าวมาเพื่อโปรดทราบและดำเนินการ
                                                                               ขอแสดงความนับถือ
                                                                         (นาย.........................)
                                                                                     ผู้เช่าซื้อ

2
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: ครอบครองยาบ้า 8 เม็ด
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2024, 11:20:37 am »
ดูจากคำถามแล้ว มันขัดแย้งกันพอสมควรนะครับ

เนื่องจากการครอบครอง ๘ เม็ด หรือ ๘ หน่วยการใช้ ตาม พรบ.ยาเสพติดถือว่าไม่เยอะนะครับ และโทษก็ไม่สูงด้วย

เว้นแต่ มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย จากการขยายผลของชุดจับกุม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งกรณีเช่นนี้จะมีโทษสูงเพราะกฎหมายถือว่าเป็นผู้ค้า

เอาเป็นว่า กรณีพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ไม่ใช่หมายความว่าเราจะไม่ได้ประกันตัว ซึ่งการประกันตัวเป็น "สิทธิ" ของผู้ต้องหา และเป็น "ดุลพินิจ" ของศาลว่าหากปล่อยตัวเราไปแล้วมีความเสี่ยงว่าเราจะหลบหนีหรือไม่ จะไปยุ่งเหยิงหรือจะไปข่มขู่พยานหรือไม่ ประมาณนี้ หากเราไม่ได้มีพฤติการเช่นนี้และมียาบ้าเพียง ๘ เม็ด ยังงัยศาลก็ให้ประกันตัวครับ

ทนายพร.

3
หากไม่อยากย้ายไปก็ห้ามเขียนใบลาออกเด็ดขาดนะครับ
แต่ให้ทำหนังสือแจ้งไม่ประสงค์จะไปทำงาน ณ สถานประกอบกิจการแห่งใหม่ เพื่อขอรับเงินค่าชดเชยพิเศษได้

ถามต่อว่า...เขียนยังงัยอ่ะทนาย นู๋ เขียนไม่เป็น.... :D

เอาเป็นว่า ทนายให้ตัวอย่างไปเป็นแนวก็แล้วกันตามข้อความข้างล่างนี้ครับ


....... กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เรื่อง   หนังสือแจ้งไม่ประสงค์จะไปทำงาน ณ สถานประกอบกิจการแห่งใหม่
เรียน   กรรมการผู้จัดการบริษัท.....
อ้างถึง   ประกาศบริษัทฉบับลงวันที่.........
   ตามประกาศที่อ้างถึง ที่บริษัทมีคำสั่ง..........(พิมพ์รายละเอียดที่เป็นใจความสำคัญ วัน/เวลา/สถานที่/จำนวนคนงานที่ถูกให้ย้าย)..... รายละเอียดท่านทราบดีอยู่แล้วนั้น
   ข้าพเจ้านาย........... พนักงานตำแหน่ง.....แผนก.......บัตรพนักงานเลขที่..... ขอแจ้งให้ทราบว่า ข้าฯไม่ประสงค์จะไปทำงาน ณ สถานประกอบกิจการแห่งใหม่ตามคำสั่ง/ประกาศ ตามที่อ้างถึงได้ เนื่องจากสถานประกอบกิจการแห่งใหม่ส่งผลกระทบสำคัญต่อการดำรงชีวิตตามปกติของข้าฯและครอบครัวทั้งเรื่องระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งด้านความปลอดภัยและการดำรงชีวิตประจำวันที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก อีกทั้งจะทำให้ข้าฯไม่สามารถจะไปส่งภรรยาและสมาชิกในครอบครัวไปทำงานได้เช่นที่เคยปฎิบัติมา (ใส่เหตุผลเกี่ยวกับภาระต่างๆ)
   ดังนั้น โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้านาย......... จึงมีหนังสือมายังบริษัทฯ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าข้าพเจ้าไม่ประสงค์จะไปทำงาน ณ สถานประกอบกิจการแห่งใหม่ตามประกาศดังกล่าว ทั้งนี้ ขอให้บริษัทฯจ่ายเงินค่าชดเชยพิเศษตามมาตรา ๑๒๐ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๗ พ.ศ.๒๕๖๒ โดยข้าฯเริ่มทำงานกับบริษัทตั้งแต่วันที่......จวบจนถึงวันทำหนังสือนี้ รวมอายุงาน.....ปี จึงมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยพิเศษเป็นเงินจำนวน......บาท โดยขอให้โอนเงินในจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคาร....เลขที่บัญชี.......ให้กับข้าฯด้วย
   อนึ่ง หากท่านไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของข้าฯ ท่านสามารถยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือนี้
   จึงแจ้งมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ

(นาย...............)
.......... กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


รู้เรื่องนะ ;D

ทนายพร.

[/size]

4
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: บริการสังคมไม่ครบ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2024, 10:55:22 am »
เป็นแน่นอนครับ มิเช่นนั้นศาลจะกำหนดเงื่อนไขไว้เพื่ออะไร
ทั้งนี้ หากเกินกำหนดแล้วให้รีบติดต่อกรมคุมประพฤติ โดยด่วนเพื่อหาทางแก้ไข มิเช่นนั้น เจ้าพนักงานคุมประพฤติก็จะรายงานศาลว่าเราหลบเลี่ยงไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง ศาลอาจจะมีมาตรการบังคับเราในทางอื่นต่อไปได้ครับ
ทนายพร.

5
ให้ทำหนังสือ ย้ำ เป็นหนังสือขอสัญญาเลยครับ
ซึ่งสามารถโหลดแบบฟอร์มโดยค้นหาใน google ว่า "แบบคำขอข้อมูลข่าวสาร"
ซึ่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ได้ให้สิทธิแก่ประชาชนเจ้าของข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลมีสิทธิขอตรวจดูข้อมูลข่าวสารของตนหรือเกี่ยวกับตนเองได้ หากมหาวิทยาลัยยังเพิกเฉยก็จะมีความผิดครับ

6
ไม่แน่ใจว่า โรงเรียนฯได้แจ้งขึ้นทะเบียนเป็นครูผู้สอนที่เขตพื้นที่การศึกษาแล้วหรือยัง?
เมื่อในสัญญาระบุว่า หากจะลาออกต้องแจ้งล่วงหน้า ๑ เดือน เมื่อเราไม่ประสงค์จะทำงานต่อไป ก็ให้ทำเป็นหนังสือแจ้งล่วงหน้าการลาออกไม่น้อยกว่า ๑ เดือน ก็เพียงเท่านี้ครับ และการลาออกไม่มีใครจะเหนี่ยวรั้งได้ เมื่อครบกำหนด ๑ เดือนแล้วก็ออกเลย
ทั้งนี้ ให้ทำสำเนาส่งไปยังเขตพื้นที่การศึกษาด้วย
อนึ่ง หากไม่สบายใจ ให้คุณครูไปขอคำปรึกษาที่เขตฯ เพื่อจะได้แนะนำช่องทางที่ถูกต้องและเป็นการป้องกันตัวเราเองด้วยครับ
ส่วนการลาออกจะมีผลต่อคนค้ำประกันหรือไม่นั้น คงไม่มีผลใดๆ หากเราออกถูกต้องตามระเบียบ หากโรงเรียนทำประการใดให้เราหรือคนค้ำต้องเสียหายก็สามารถใช้สิทธิปกป้องและฟ้องได้ครับ
ให้กำลังใจครับ
ทนายพร.

7
ถามมาว่า...จะติดคุกมั๊ย...

อืมม....ทนายก็ไม่ใช่ศาลซะด้วย....ว้าวุ้นเลยทีนี้ ;)

เอาเป็นว่าจะติดหรือจะรอ ต้องดูแนวทางการต่อสู้เป็นหลักครับ  หากทำผิดจริงตามที่พนักงานตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา และเป็นไปตามท่านอัยการยื่นฟ้อง หากเป็นการกระทำความผิดครั้งแรก เคยทำความดีต่อสังคม และมีความดีอยู่บ้าง หรือมีเหตุอันควรปราณีอื่นๆ เช่น ชี้ช่องให้ตำรวจขยายผลจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ หากรับสารภาพ ก็มีโอกาสที่จะรอลงอาญาสูงอยู่ครับ

แต่ถ้าสู้คดีแล้วแพ้ ก็ติดแน่...ส่วนจะนานเท่าใด เป็นดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาปรับโทษกับพฤติการณ์ในการกระทำความผิดครับ

แต่หากกระทำความผิดซ้ำซาก กรณีนี้ ศาลมักจะไม่ปราณี และจะลงโทษจำคุกสถานเดียวล่ะครับ

ดังนั้น ที่ถามว่าจะติดมั๊ย...ก็อยู่ที่แนวทางในการต่อสู้คดีครับ

ขอให้โชคดี

ทนายพร.

8
ศาลให้โอกาสแล้วโดยให้บำเพ็ญฯ แต่ทำไม่ได้

ซึ่งเรื่องนี้ คุณจะต้องติดต่อสำนักงานคุมประพฤติ โดยตรงเลยครับ และหาทางออกร่วมกัน

หาไม่แล้ว ศาลจะมีมาตรการลงโทษ กรณีผิดเงื่อนไขของศาล

ดังนั้น ให้รีบติดต่อโดยด่วน ส่วนกรณีลางานไม่ได้นั้นก็เป็นปัญหาที่คุณจะต้องแก้ไขเองเช่นเดียวกันครับ

รีบไปเลยครับ

ทนายพร.

9
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: คดียาเสพติด ครั้งที่2
« เมื่อ: มิถุนายน 20, 2023, 08:56:53 am »
นัดแรก ยังไม่จำคุกหรอกครับ

ศาลต้องถามก่อนว่า มีทนายความหรือไม่ ต้องการให้ศาลตั้งทนายขอแรงให้ช่วยหรือไม่

หลังจากนั้น ก็จะนัดอีกครั้งหนึ่ง ให้ทนายความช่วยทำคำให้การ ส่วนจะสู้คดีหรือรับสารภาพก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

หากรับสารภาพ ศาลก็จะลดโทษให้ แต่ก็จะบวกโทษในคดีเดิมไปด้วย ซึ่งรอบนี้คงจะยากหน่อยที่จะให้ศาลรอลงอาญา เนื่องจากทำผิดซ้ำซาก เว้นแต่จะมีเหตุพิเศษครับ

ขอให้โชคดีครับ
ทนายพร.

10
ถามมาเกี่ยวกับยาเค และยาเสียสาว

เอาเป็นว่า ทนายตอบตามที่ถามเลยนะครับ

ถามมาว่า...
อยากสอบทนาย (คงหมายถึงสอบถามทนาย ;))
1.น้องจะมีโทษเยอะไหมครับ
ตอบ โทษเกี่ยวกับยาเค นี้ หากถูกฟ้องข้อหาเสพ มีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี และมีโทษปรับด้วย
หากเป็นกรณีครอบครอง ต้องระวางโทษจำคุก ๑-๕ ปี และมีโทษปรับด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๕-๒๐ ปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนถึงสองล้านบาท

2.มีสิทธิ์รอลงอาญาไหม
ตอบ ปริมาณไม่เยอะ หากรับสารภาพ สำนึกผิด กระทำครั้งแรก และอยู่ในวัยเรียน ศาลมักให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี ครับ

3.น้องชายพร้อมญาติ ได้นำหลักฐานในการสั่งซื้อในแชท (ในช่วงเวลาก่อนโดนจับ) และสลีปการโอนเงิน
 ไปให้สำนวนเพิ่ม ตรงนี้ประโยชน์ในชั้นศาลไหมครับ
ตอบ - มีประโยชน์มากทีเดียวครับ หรือที่นักกฎหมายเรียกว่า ขอ ๑๐๐/๒ นั่นแหละ ถือเป็นเหตุในการลดอัตราโทษครับ

ขอให้โชคดีครับ

ทนายพร.

11
กระทู้ซ้ำ ตอบไปแล้วครับ
ทนายพร.

12
ศาลตัดสินและคดีสิ้นสุดแล้ว เหลือเพียงสภาพบังคับเท่านั้น

ดังนั้น ให้เขียนคำแถลงขอชำระเงินในส่วนที่เหลือแล้วนำไปยื่นต่อศาล โดยในคำแถลงนั้น ขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกอายัดบัญชีของเราไปด้วย เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นครับ ซึ่งขบวนการขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่นานครับ และศาลจะมีหนังสือส่งไปยังธนาคารเพื่อปลดการอายัดบัญชีเราต่อไป

ทนายพร.

13
ถามมาเป็นข้อๆ ทนายก็ตอบเป็นข้อๆเหมือนกัน ;D

ถามมาว่า
1.ดิฉันทำตำแหน่ง HR PAYROLL ทำเงินเดือนพนักงาน หากลาออกทันทีจะไม่มีคนทำเงินเดือน  นายจ้างสามารถอ้างข้อนี้เพื่อเรียกค่าเสียหายได้ไหมคะ
ตอบ - อ้างได้ครับ หากถึงเวลาทำเงินเดือนแล้วไม่มีคนทำแทน หากนายจ้างต้องไปหาบุคคลอื่นมาทำแทนเรา ค่าเสียหายในส่วนนี้นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายกับเราได้ครับ
2.มูลค่าความเสียหาย หากทำเงินเดือนไม่ทัน ออกไม่ตามกำหนด นายจ้างจะเรียกเท่าจำนวนเงินเดือนพนักงานบริษัทได้ไหมคะ (ประมาณหลักล้าน)
ตอบ - อันนี้คงเรียกค่าเสียหายตามจำนวนเงินเดือนไม่ได้ครับ แต่จะเรียกค่าเสียหายตามข้อ ๑ ได้เท่านั้น

3.หากต้องชดใช้จริง กรณีเงินจำนวนมากลูกจ้างสามารถผ่อนชำระได้ไหมคะ
ตอบ - การประนีประนอมยอมความเป็นหนทางที่สร้างความสงบสุขได้ดี แม้แต่การทำสงครามก็ยุติด้วยการเจรจาทั้งนั้น ดังนั้น หากถูกฟ้องและต้องจ่ายค่าเสียหายก็สามารถไกล่เกลี่ยขอผ่อนชำระได้ครับ(ค่าเสียหายจะเป็นดุลพินิจของศาลในการกำหนดจำนวนเงินของค่าเสียหายจากพยานหลักฐานที่คู่ความนำสืบ หรือหากโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเสียหายอย่างไร เสียหายเท่าใด เกี่ยวข้องกับลูกจ้างอย่างไร ศาลก็ไม่ให้นะครับ)

รบกวนหน่อยนะคะ ร้อนใจมากๆค่ะ จะให้ไปทำงานต่อก็ไม่ไหวเครียดมากๆ พอจะไปเริ่มงานใหม่ก็กลัวโดนฟ้อง

ไม่แน่ใจว่าจะตอบทันพอคลายความเครียดทันมั๊ย...

แต่ก็ให้กำลังใจนะครับ

ทนายพร.

14
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: โทษปรับ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2023, 10:26:22 pm »
ทนายขยี้ตาอ่านหลายรอบว่ากำลังจะคิดว่าผู้ถามต้องการคำตอบอย่างไร..

เอางี้ ต้องแยกก่อนระหว่าง "เงินประกันตัว" กับ "ค่าปรับ" ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกัน

ถึงแม้ว่าจะเอาเงินประกันตัวมาจ่ายเป็นค่าปรับก็ตาม....

การประกันตัว คือการเอาตัวเองออกมาจากห้องขังในระหว่างการต่อสู้คดี หรือในระหว่างที่ศาลยังไม่ตัดสิน

ส่วนค่าปรับ คือมาตรการการลงโทษประเภทหนึ่ง ซึ่งในทางอาญา กำหนดโทษไว้ ๕ สถาน คือ ๑. ประหารชีวิต ๒. จำคุก ๓. กักขัง ๔.ปรับ และ ๕ ริบทรัพย์สิน

ซึ่งโทษที่ศาลลงนั้น คือโทษจำคุกและมีโทษปรับด้วย

แต่หากไม่อยากเสียค่าปรับ ก็ต้องจำคุกแทนค่าปรับ ซึ่งกำหนดอัตราไว้วันละ ๕๐๐ บาทต่อวัน ก็ไปคำนวณเอา

แต่ว่า คุณได้จ่ายเงินไปแล้ว หากอยากจะได้คืนก็ต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลคืนค่าปรับและขอจำคุกแทนค่าปรับแทน ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรก็เป็นดุลพินิจของศาลนะครับ...แต่ทนายคิดว่าศาลคงไม่ให้หรอก

และทนายก็พึงจะเคยเจอว่าอยากจะเข้าไปอยู่ในคุกแทนที่จะอยู่แบบอิสระ...แต่ก็เข้าใจครับว่า เงินตั้ง ๒ หมื่น สำหรับคนที่ไม่มีแล้วก็ถือว่ามากมายมหาศาลทีเดียว หากเอา ๒ หมื่น หารด้วย ๕๐๐ ก็จะต้องจำคุกรวม ๔๐ วัน แต่ถ้าอยู่ข้างนอกไม่แน่ว่า ๔๐ วันนี้จะหาเงินได้ถึง ๒ หมื่นหรือไม่ ก็น่าคิดครับ...นานาจิตตัง

ให้กำลังใจครับ

ทนายพร.

15
หากที่เล่ามาเป็นเรื่องจริงก็น่าเห็นใจครับ
เอาเป็นว่าทนายจะตอบข้อสงสัยนะครับ

ถามมาว่า ครบกำหนดตามที่ปรากฎในใบสีชมภู หรือใบรายงานตัวแล้ว ต้องทำงัยต่อ...
โดยปกติแล้ว เมื่อมีการกระทำที่กฎหมายถือว่าเป็นความผิดอาญา ตำรวจหรือเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองก็มีหน้าที่จับตัวผู้กระทำผิดส่งให้แก่พนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนทำสำนวนส่งให้อัยการเพื่อยื่นฟ้อง ปัญหาว่า ระยะเวลาที่จะยื่นฟ้องนั้นจะเพียงพอต่อการแสวงหาพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนหรือไม่ กฎหมายจึงให้อำนาจพนักงานสอบสวนในการ "ฝัดฟ้องหรือฝากขัง" ได้ โดยในระหว่างนี้หากประกันตัวก็จะได้รับการปล่อยตัว หากไม่ได้ประกันตัวก็จะต้องถูกขังในระหว่างทำสำนวนส่งอัยการเพื่อยื่นฟ้องครับ

ถามต่อไปว่า ตำรวจจะฝัดฟ้องได้กี่ครั้ง ครั้งละกี่วัน?
ซึ่งถ้าเป็นคดีศาลแขวง พนักงานสอบสวนจะต้องยื่นฟ้องภายใน ๔๘ ชั่วโมง หากฟ้องไม่ทันจะต้องฝากขังฝัดฟ้องได้ไม่เกิน ๕ ครั้งๆละไม่เกิน ๖ วัน
หากเป็นศาลจังหวัด จะพิจารณาโทษจากการกระทำความผิดเป็นหลัก หากความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำคุกสูงไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ ศาลมีอำนาจสั่งขังได้เพียงครั้งเดียว ไม่เกิน ๗ วัน
กรณีที่ความผิดอาญาอัตราโทษจำคุก สูงเกินกว่า ๖ เดือน ไม่ถึง ๑๐ ปี หรือปรับเกิน ๕๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลมีอำนาจสั่งขังหลายครั้งติดกัน แต่ครั้งหนึ่งต้องไม่เกิน ๑๒ วัน และรวมกันไม่เกิน ๔๘ วัน
กรณีความผิดอาญาอัตราโทษสูงตั้งแต่ ๑๐ ปี  ขึ้นไปจะมีโทษปรับหรือไม่ ศาลมีอำนาจสั่งขัง หลายครั้งติดกัน ครั้งละไม่เกิน ๑๒ วัน แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน  ๘๔ วัน

หากครบกำหนดแล้วพนักงานอัยการยังไม่ฟ้องจะทำงัย...หลุดคดีเลยมั๊ย?....ยังก่อน ทำผิดก็ต้องรับโทษครับ

กฎหมายบอกว่า หากครบกำหนดฝากขังฝัดฟ้องแล้วยังไม่นำตัวผู้ต้องหามาฟ้องต่อศาล อำนาจในการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวนก็จะหมดไป ศาลก็จะต้องปล่อยตัวเรา เมื่อทำสำนวนเสร็จ อัยการก็จะนัดหมายเราไปศาลและยื่นฟ้องต่อศาลดำเนินการขั้นตอนต่อไปครับ

ดังนั้น ในกรณีนี้ ให้สอบถาม ที่งานประชาสัมพันธ์ ตรงที่เราไปรายงานตัวนั่นแหละว่า เราจะต้องมารายงานตัวต่อหรือไม่ หรือเพียงแค่ ๓ ครั้ง (แต่ทนายดูแล้วไม่มีเงื่อนไขใหนเข้า ๓ ครั้งเลยนะ) โดยเอาใบสีชมพูไปสอบถามก็จะได้สบายใจนะครับ

ส่วนคดีความนั้น คงต้องหาทนายมาช่วยเหลือแล้วล่ะครับ

ทั้งนี้ สภาทนายความมีทนายอาสาอยู่ประจำทุกศาลเพื่อช่วยเหลือประชาชนในคดีอาญา

หรือถ้ามีเงินพอที่จะจ้างทนายความได้ก็ให้รีบเลยครับ จะได้มีเวลาประชุมวางแผนในการต่อสู้คดีต่อไปครับ

ให้กำลังใจครับ

ทนายพร.

หน้า: [1] 2 3 ... 50