211
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: เลิกจ้างไม่เป็นธรรม
« เมื่อ: สิงหาคม 04, 2020, 03:08:13 am »
อ่านแล้วก็น่าเห็นใจนะครับ โดยเฉพาะพี่น้องคนงาน ซึ่งถูกเลิกจ้างในสถานการณ์ไวรัส โควิด ระบาดนี้ ซึ่งแน่นอนว่า นายจ้างบางรายก็มักจะอ้างโควิดเพื่อเลิกจ้าง หรือไม่ก็ให้ลูกจ้างลดค่าจ้าง หรือ ฯลฯ ซึ่งจะได้รับผลกระทบจริงหรือไม่ ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป
เอาล่ะ แนะนำกว้างๆไปว่า เอกสารที่จะต้องลงนามนั้น ก็อ่านหลายๆรอบให้เข้าใจ อะไรไม่เข้าใจก็ให้ถามไปเลยว่า ข้อความนี้หมายความว่าอย่างไร หากเราไม่เห็นด้วยจะตัดข้อความนั้นได้หรือไม่ เอากันให้เครียร์ๆในตอนนั้น ไม่ใช่ว่า เซ็นต์ไปแล้ว ไปถามทีหลัง มันไม่มีประโยชน์
ดังนั้น ที่ถามว่า ต้องเซ็นต์มั๊ย ก็อยู่ที่เรา ซึ่งแน่นอนว่า ในเอกสารดังกล่าว เชื่อว่าจะมีข้อความประมาณว่า "ลูกจ้างสละสิทธิไม่ติดใจเรียกร้องหรือฟ้องร้องบริษัท" ถ้ามีข้อความนี้ หากคิดว่าเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ก็ห้ามเซ็นต์ครับ เพราะตามแนวคำพิพากษาศาลฏีกาวางแนวไว้ว่า เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความประเภทหนึ่ง ซึ่งบังคับได้คามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่า ฟ้องไปก็แพ้ครับ
หรือถ้าไม่มีข้อความดังกล่าว หรือมี แต่ขีดฆ่าออก แล้วอ่านดูไม่เป็นการสละสิทธิฯก็เซ็นต์ได้ครับ รับเงินค่าชดเชยมาก่อน แล้วจึงไปใช้สิทธิฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๙ ครับ
ส่วนที่เล่ามาว่าถูกกลั่นแกล้ง หัวหน้าไม่ชอบหน้า ประเด็นนี้คือข้อเท็จจริง ที่จะต้องพิสูจน์ในชั้นศาลล่ะครับ
ประมาณนี้ ให้กำลังใจนะครับ
ทนายพร.
เอาล่ะ แนะนำกว้างๆไปว่า เอกสารที่จะต้องลงนามนั้น ก็อ่านหลายๆรอบให้เข้าใจ อะไรไม่เข้าใจก็ให้ถามไปเลยว่า ข้อความนี้หมายความว่าอย่างไร หากเราไม่เห็นด้วยจะตัดข้อความนั้นได้หรือไม่ เอากันให้เครียร์ๆในตอนนั้น ไม่ใช่ว่า เซ็นต์ไปแล้ว ไปถามทีหลัง มันไม่มีประโยชน์
ดังนั้น ที่ถามว่า ต้องเซ็นต์มั๊ย ก็อยู่ที่เรา ซึ่งแน่นอนว่า ในเอกสารดังกล่าว เชื่อว่าจะมีข้อความประมาณว่า "ลูกจ้างสละสิทธิไม่ติดใจเรียกร้องหรือฟ้องร้องบริษัท" ถ้ามีข้อความนี้ หากคิดว่าเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ก็ห้ามเซ็นต์ครับ เพราะตามแนวคำพิพากษาศาลฏีกาวางแนวไว้ว่า เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความประเภทหนึ่ง ซึ่งบังคับได้คามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่า ฟ้องไปก็แพ้ครับ
หรือถ้าไม่มีข้อความดังกล่าว หรือมี แต่ขีดฆ่าออก แล้วอ่านดูไม่เป็นการสละสิทธิฯก็เซ็นต์ได้ครับ รับเงินค่าชดเชยมาก่อน แล้วจึงไปใช้สิทธิฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๙ ครับ
ส่วนที่เล่ามาว่าถูกกลั่นแกล้ง หัวหน้าไม่ชอบหน้า ประเด็นนี้คือข้อเท็จจริง ที่จะต้องพิสูจน์ในชั้นศาลล่ะครับ
ประมาณนี้ ให้กำลังใจนะครับ
ทนายพร.