16/04/24 - 18:43 pm


ผู้เขียน หัวข้อ: ค่าล่วงเวลา  (อ่าน 3343 ครั้ง)

Naleumon khamchaiya

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
ค่าล่วงเวลา
« เมื่อ: ธันวาคม 09, 2019, 12:54:57 pm »
อยากทราบค่าล่วงเวลาค่ะ แฟนนู๋ทำงานรายเดือนแบบชาร์จดาวน์ สัญญาจ้าง6เดือน (งานเราก็คือเอาหกล้อเข้าไปวิ่งงาน)ตกลงกันไว้ 44000/เดือน  แต่ไม่มีสัญญาจ้างใดๆกับ หจก.ค่ะ
1) นู๋อยากทราบการคิดค่าล่วงเวลา ถ้าแบบที่นู๋คิดคือ 44000%30%8*1.5=275
แต่ หจก.เขาคิด ให้44000%30%8=183 แบบ หจก.นู๋คิดแบบนี้ผิดหรือถูกค่ะ
 
และอีกอย่าง  เราทำงานได้1เดือน แล้วค่อยมาบอกเราว่าจะหัก5%ของเงินเดือน ทั้งที่ก่อนเริ่มงานไม่บอกอะไรเลย
และก่อนเริ่มงานบอกเราว่า ทำงาน1เดือนครึ่งแล้วตังจะออกก็ไม่ออก เลื่อนเราไปเรื่อยๆ จน2เดือนค่อยออกเดือนแรกให้เรา
เดือนก่อนออกให้วันที่10 พอมาเดือนนี้มาบอกว่า เดือนนี้จะออกให้วันที่10แต่เดือนหน้าจะออกวันที่25 คือนู๋ต้องทำยังไงต่อค่ะไม่รู้จะต้องคุยเจราจาแบบไหนดีค่ะเรื่องค่าล่วงเวลาอ่ะค่ะ

Manotham

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
    • ดูรายละเอียด
Re: ค่าล่วงเวลา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2019, 05:55:40 pm »


ค่าล่วงเวลา (โอที)
  ให้จ่ายไม่น้อยกว่า  1.5 เท่าของค่าจ้าง'รายชั่วโมง (ม.61) เงินเดือน  44,000  ค่าล่วงเวลาก็ประมาณ ชั่วโมงละ 275 บาท (คุณคิดถูกต้อง)  นายจ้างและลูกจ้าง  ต้องอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย  ถ้ายึดกฎหมายเป็นที่ตั้ง  อาจจะร่วมงานกันลำบาก  ถ้าไปยึดกฎเกณฑ์เคร่งครัด   ถ้านายจ้างจะหาเหตุเลิกจ้าง  ก็คงไม่ยากเย็น...เรื่อง หักเงิน 5 %  ก็ควรใช้การเจรจาหาทางออกดีที่สุด

Naleumon khamchaiya

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
Re: ค่าล่วงเวลา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2019, 12:32:19 pm »
ครั้งสุดท้ายที่เจราจากัน นู๋ยินยอมรับค่าโอที190฿ และให้หัก5%แล้วค่ะ หจก. ก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไรหรอกค่ะ ที่นู๋เหมือนรู้มากอย่างเขาว่า แต่ปัญหาใหญ่กว่าเดิมค่ะ วันที่10ตังไม่ออกจริงๆค่ะ ซึ่ง หจก.นู๋รับงานมาจากอีก หจก.1 ซึ่งเขายังไม่จ่ายตัง ทำให้เขามีปัญหากัน ทำให้ หจก.นั้น ถอนสัญญากับหน้างานใหญ่ ทำให้สัญญาที่มีกับนู๋ถูกยกเลิกทันที แต่หจก.นุ๋ได้คุยกับจัดซื้อเอง แต่คงเด้งนู๋ออก แต่ปัญหาคือ นุ๋วิ่งงานค้างไว้2เดือน และ หจก.นู๋ไม่ได้รับผิดชอบใดๆ เขาบอกไม่ได้เกี่ยวกับเขา แต่เอกสารทุกอย่างแม้แต่เงินเดือนแรกนู๋ก็ทำผ่านเขาทั้งหมด แบบนี้นู๋จะทำยังต่อค่ะ โอทีที่ทำค้างไว้เยอะมากค่ะที่สำคัญ นู๋ไม่มีเงินมาจ่ายงวดรถหกล้อเขาพร้อมจะเข้ายึดทันที นุ๋เคยบอกว่านู๋มีเพื่อนเป็นทนายแต่มันเพิ่งเรียนจบ นุ๋แค่ถามมันเรื่องค่าคิดโอทีนี่แหละค่ะ แต่ฝั่ง หจก.นู๋มาพูดประมาณว่านู๋เก่งมีเพื่อนเป็นทนายก็ให้เขาช่วยเรื่องนี้ดูสิ เรื่องที่นู๋ยังไม่ได้อ่ะค่ะ นุ๋จะทำยังไงดีค่ะ งานก็ไม่ได้วิ่งต่อ เงินเดือนก็เหมือนจะไม่ได้ หาคนมารับผิดชอบก็ไม่ได้ นู๋จะทำยังไงดีค่ะ
ก่อนหน้าจะมาวิ่งงานตัวนี้ นู๋ก็ค้างงวดรถแล้ว3งวดแต่นู๋ก็ยืมมา70000฿กว่าเพื่อมาส่ง และมาวิ่งงานตัวนี้ แต่ตอนนี้เป็นแบบนี้ นู๋เคลียดจังเลยค่ะ  ขอบคุณจากใจที่ตอบคำถามนู๋ค่ะ
ครอบครัวนู๋เครียดมากค่ะโดยเฉพาะแม่ ไม่ยอมกินข้าวเมื่อคืน แม่กับหจก.นู๋เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่อนุบาล ทุกอย่างแย่มากแล้ว นู๋ต้องทำยังไงต่อดีค่ะ

Manotham

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
    • ดูรายละเอียด
Re: ค่าล่วงเวลา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2019, 07:14:24 am »
เบื้องต้น  ใช้วิธีติดต่อขอความช่วยเหลือ  จากผู้ตรวจการแรงงานก่อน   สนง.อยู่ที่ไหน ก็ลองถามดู ในจังหวัดนั้น ๆ ครับ

ทนายพร

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 750
    • ดูรายละเอียด
Re: ค่าล่วงเวลา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 04, 2020, 11:55:49 am »
อ่านไปก็น้ำตาจะใหล ไม่รู้ว่าทนายเข้ามาตอบทันหรือเปล่านะ...แต่เอาเถอะเมื่อถามมาก็ตอบไป เผื่อจะเป็นประโยชน์กับบุคคลอื่นๆที่เข้ามาอ่านบ้าง

ก่อนอื่น ทนายอ่านแล้ว ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับงานที่ทำว่าเป็นงานประเภทอะไร เพราะงานแต่ละประเภทจะคิดค่าตอบแทนที่ทำงานแตกต่างกันและมีเวลาทำงานที่แตกต่างกันด้วย เช่นงานในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป หากทำงานเกินเวลาทำงานปกติ จะเรียกว่า ค่าล่วงเวลา แต่ถ้าเป็นงานเกี่ยวกับขนส่ง จะไม่เรียกค่าล่วงเวลา แต่จะเรียกว่า ค่าตอบแทนการทำงานเกินเวลาทำงานปกติ ตามประกาศกระทรวงฉบับที่ ๑๒ ซึ่งทั้งสองประเภทนี้คิดเงินแตกต่างกัน หากเป็นงานปกติจะได้ ๑.๕ เท่า แต่ถ้าเป็นงานขนส่งจะได้ ๑ เท่า ครับ

ดังนั้น ตามที่ถาม หากการทำงานของแฟนคุณเป็นงานทั่วไป วิธีคิดตามที่คุณคิดมานั้น ถูกต้องแล้ว 
แต่ถ้าเป็นงานประเภทขนส่ง วิธีคิดของบริษัท ก็ถูกต้องเช่นกันครับ

ส่วนประเด็นการหักเงิน ๕ เปอร์เซ็นต์ หรือภาษาทางการเรียกว่า ร้อยละ ๕ นั้น ก็ต้องดูว่าหักเป็นค่าอะไร ถ้าหักเพื่อนำส่งประกันสังคม ก็เป็นการหักที่ถูกต้อง หรือถ้าไม่ใช่ ก็ต้องตามว่าหักเป็นค่าอะไร เพราะกฎหมายห้ามหักค่าจ้างเว้นแต่เป็นการหักตามมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญํติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ นั่นก็คือ (๑) หักภาษีหรือชำระเงินอื่นๆ ที่กฎหมายกำหนด (๒) หักค่าสหภาพ (๓) ชำระหนี้สหกรณ์ (๔) หักเงินประกันบางประเภท หรือหักค่าเสียหายโดยลูกจ้างต้องยินยอม หรือ (๕) หักเงินสะสม

ส่วนการเลื่อนการจ่ายค่าจ้างนั้น ถ้าตอบตามหลักกฎหมายนั้น ได้วางหลักไว้ในมาตรา ๗๐ ว่า บรรดาเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิ์ได้รับหรือนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายตามกฎหมาย ให้จ่ายให้แก่ลูกจ้างภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่กำหนด ดังนั้น เมื่อนายจ้างจ่ายเงินล่าช้ากว่า ๓ วัน ก็ให้ไปยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน (คร.๗) เพื่อให้พนักงานตรวจแรงงานสั่งให้นายจ้างจ่าย พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปีของเงินที่ค้างจ้าย และอย่าลืม ขอให้พนักงานตรวจแรงงานสั่งให้นายจ้างจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ ๑๕ ทุกระยะ ๗ วัน ของเงินที่ค้างจ่ายตามมาตรา ๙ ไปด้วยนะครับ

ส่วนเมื่อไปร้องแล้ว จะทำงานร่วมกันต่อไปได้หรือไม่ ทนายก็รอลุ้นต่อไป...อิอิ (นายจ้างคงโกรธจนควันออกหูแน่)

ส่วนปัญหาและความเครียดที่เกิดขึ้น คิดซะว่า เป็นลิขิตฟ้าที่กำหนดให้เราเป็นแบบนี้ครับ คิดเสียว่า ยังมีคนอื่นที่มีปัญหามากกว่าเรา เครียดกว่าเราอีกมากมาย และทนายจะบอกให้ว่า คนรวยๆหรือนักธุรกิจทั้งหลาย ล้วนแต่ผ่านปัญหาและความเครียดมาอย่างมากมาย แต่คนเหล่านั้นก็ยังสามารถยืนหยัดต่อไปได้ เพราะความไม่ย่อท้อหรือยอมแพ้แก่โชคชะตาครับ  เอาน่า ทนายเชื่อว่าด้วยความดีที่ท่านและครอบครัวทำงาน จะนำพาท่านและครอบครัวพ้นผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ครับ

ให้กำลังใจครับ

ทนายพร.