20/04/24 - 19:21 pm


ผู้เขียน หัวข้อ: ตรวจสารเสพติด โดยวิธีปาดเหงื่อ  (อ่าน 68468 ครั้ง)

cocktail

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
    • ดูรายละเอียด
ตรวจสารเสพติด โดยวิธีปาดเหงื่อ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2017, 04:21:25 pm »
ขอคำปรึกษา ค่ะ
        1.   แฟนทำงานบริษัท ก.เป็นเวลาเกือบ 5 ปี เมื่อปีที่ผ่านมา 2559 โรงงานเข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาว มีการตรวจสารเสพติดพนักงานทุกคน (ตรวจโดยการปาดเหงื่อ) ผลปรากฎว่า แฟนตรวจพบสารเสพติด(ยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติด) แต่เป็นปริมาณที่เยอะมาก คือมากเกินมาตราฐานการเสพยา ทางบริษัท ข. ที่เป็นเจ้าหน้าที่มาตรวจ ไม่สามารถระบุให้ได้ว่า สารที่พบนี้คืออะไร เป็นสารประเภทไหน มีการสันนิษฐาน จากแฟนว่า อาจจะเป็นการดูด บารากุกับเพื่อน ซึ่งอาจจะมีสาร หรือมีส่วนผสม อยู่หรือไม่  แต่ทางบริษัท ก.ให้แฟนเซ็นต์รับทราบใบเตือน ซึ่งในครั้งนั้น มีพนักงานคนอื่นตรวจเจอสารเสพติด หลายคน ทุกคนรับสารภาพว่ามีการเสพยาจริง และยอมเซ็นต์ใบเตือน จริง
    2.  ผ่านมาอีกหลายวัน ทางบริษัท ก. ให้บริษัท ข. เข้ามาตรวจสารเสพกับพนักงานที่ตรวจเจอสารในครั้งแรก ซ้ำ เป็นครั้งที่ 2 (ห่างจากครั้งแรก ประมาณ 3-4 วัน)  ผลปรากฎว่า มีสารเสพติดคงเหลืออยู่ แต่ปริมาณ ลดลง
3.  ให้พนักงานกลุ่มเดิม เซ็นต์ใบลาออก รอ  (..หากตรวจเจอในครั้งนี้ ให้ลาออกจากการทำงานทันที )...ตรวจพนักงานกลุ่มเดิมเป็นครั้งที่ 3  แฟนตรวจไม่พบสาร หรือ อาจจะเจอสารน้อย ทางบริษัท ก.ไม่แจ้งรายละเอียด ส่วนพนักงานที่ตรวจเจอซ้ำให้เขียนใบลาออก ทันที ....
4.  วันที่ 7 ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา บริษัท ข. เข้ามาตรวจสารเสพติด (ปาดเหงื่อ) อีกครั้ง ***ก่อนหน้าที่จะมีการตรวจ แฟนกินยาคลายกล้ามเนื้อ ที่มีลักษณะเป็นยาเม็ดเล็ก ๆ ประมาณ 3-4 เม็ด ***ผลปรากฎว่า แฟนตรวจพบสาร แต่ไม่ทราบปริมาณที่ชัดเจน ฝ่ายบุคคลได้เรียกแฟน เพื่อพูดคุยแค่ว่า ทางผู้บริหาร (คนญี่ปุ่น)ลงมติ ให้ออกจากงาน โดยการเขียนใบลาออก ในวันนี้ทันที (วันที่ 7/2/2560) โดยไม่มีการสอบถามหรือ สอบสวน ความจริง แต่อย่างใด ซึ่งแฟน ได้สอบถามว่า สารเสพติดที่พบเป็นประเภทไหน แยกสารได้ไหม แต่ไม่มีคำตอบใดๆ บอกเพียงแค่ให้เขียนใบลาออก แล้วจะได้รับเงินเดือนที่ผ่านมา และเงินสะสม ทำให้แฟนจำต้องเซ็นต์ และออกจากงาน ณ เวลา 14.00 น.
สอบถามค่ะ
1. ตรวจเจอสาร ครั้งที่ 1 เซ็นต์รับทราบใบเตือน ผ่านมา 3-4 วัน ตรวจซ้ำ เจอสารปริมาณลดลง กรณีนี้ คือ การตรวจเจอสาร 2 ครั้งหรือไม่ค่ะ หรือเป็นแค่การ ติดตามผล เพราะ ระยะเวลาในการตรวจ สารยังคงตกค้างในร่างกาย
2. ตรวจครั้งสุดท้าย คือครั้งที่ 4 ทางบริษัท ฯ ไม่แสดงผลตรวจที่ชัดเจน และไม่แจ้งรายละเอียดใด ๆ บอกแค่ว่ามีสารในร่างกาย พนักงานมีการร้องขอให้แยกสาร แต่บริษัท ฯ ไม่ดำเนินการใดๆ แต่ให้พนักงานเขียนใบลาออกและสิ้นสุดการทำงาน ทันที แบบนี้ บริษัท ฯ ปฎิบัติถูกต้องหรือไม่
3.  บริษัท ฯ แจ้งว่า มีการตรวจสารทั้งหมด 4 ครั้ง ตรวจเจอสาร 3 ครั้ง ให้ออกจากงาน เป็นข้อเท็จจริง หรือป่าวค่ะ   
4.  ล่าสุด ทางที่ปรึกษาบริษัท ฯ กล่าวหาว่า ลูกจ้างมีการจำหน่ายยาเสพติด ....???
อยากทราบว่า สิ่งที่บริษัท ฯ กระทำกับลูกจ้างแบบนี้ ถูกต้องหรือไม่ค่ะ และหากลูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม จะฟ้องร้อง อะไรได้หรือไม่ค่ะ  ??????
รบกวนด้วยค่ะ เนื่องจากกังวลใจมาก ไม่รู้จะปรึกษาใครที่ให้คำตอบได้ดีที่สุด ขอบคุณล่วงหน้า ค่ะ

ทนายพร

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 750
    • ดูรายละเอียด
Re: ตรวจสารเสพติด โดยวิธีปาดเหงื่อ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2017, 12:16:54 am »
เอาเป็นว่าไม่พูดพร่ำทำเพลงล่ะ ตอบเป็นข้อๆตามที่ถามเลย (เวลามีน้อยๆ..อิอิ)

1. ตรวจเจอสาร ครั้งที่ 1 เซ็นต์รับทราบใบเตือน ผ่านมา 3-4 วัน ตรวจซ้ำ เจอสารปริมาณลดลง กรณีนี้ คือ การตรวจเจอสาร 2 ครั้งหรือไม่ค่ะ หรือเป็นแค่การ ติดตามผล เพราะ ระยะเวลาในการตรวจ สารยังคงตกค้างในร่างกาย

ตอบ สารเสพติดหากมีการเสพเข้าสู่ร่างกายแล้ว สารดังกล่าวสามารถอยู่ในร่างกายได้ประมาณหนึ่งเดือน ซึ่งหากตรวจภายหลังที่เสพใหม่ๆ สีของสารที่ตรวจได้ก็จะเป็นสีเข้ม และเมื่อวันเวลาผ่านไป สีก็จะจางลงเรื่อยๆ จนหมดไปตามปริมาณที่เสพเข้าไปครับ ซึ่งจากคำถามก็คงตอบได้ว่าเป็นสารตกค้างครับ

2. ตรวจครั้งสุดท้าย คือครั้งที่ 4 ทางบริษัท ฯ ไม่แสดงผลตรวจที่ชัดเจน และไม่แจ้งรายละเอียดใด ๆ บอกแค่ว่ามีสารในร่างกาย พนักงานมีการร้องขอให้แยกสาร แต่บริษัท ฯ ไม่ดำเนินการใดๆ แต่ให้พนักงานเขียนใบลาออกและสิ้นสุดการทำงาน ทันที แบบนี้ บริษัท ฯ ปฎิบัติถูกต้องหรือไม่

ตอบ ก็คงตอบตรงๆ ไม่ได้ว่าถูกหรือผิดนะครับ ก็อย่างที่บอกว่า เมื่อรู้ว่าตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ถ้าเราไม่ได้เสพจริงก็ควรจะหาวิธีมายืนยันว่าสารสีม่วงที่พบไม่ใช่สารเสพติดแต่เป็นยาปฎิชีวนะ เราก็จะต้องรีบไปโรงพยาบาลเพื่อให้โรงพยาบาลนำฉี่เราไปตรวจหาว่าที่เป็นสีม่วงนั้นเกิดจากอะไร ซึ่งตัวเราเองจะรู้ว่าทำอะไรไว้ และนำผลการตรวจนี้มายืนยันและปกป้องตนเองได้ และที่สำคัญไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หากเราคิดว่าเราบริสุทธิก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องไปเขียนใบลาออกครับ
 
3.  บริษัท ฯ แจ้งว่า มีการตรวจสารทั้งหมด 4 ครั้ง ตรวจเจอสาร 3 ครั้ง ให้ออกจากงาน เป็นข้อเท็จจริง หรือป่าวค่ะ 
 
ตอบ   อืมมมม...ข้อนี้ ทนายงง...ครับ ...เอางี้ ให้ถามใหม่ๆ...อิอิ

4.  ล่าสุด ทางที่ปรึกษาบริษัท ฯ กล่าวหาว่า ลูกจ้างมีการจำหน่ายยาเสพติด ....???

ตอบ  ถ้าการกล่าวหานั้นเอ่ยชื่อเรา และคิดว่าเราเสียหาย (ไม่ได้ขายจริง) ก็สามารถฟ้องต่อศาลข้อหาหมิ่นประมาทได้ครับ

5.อยากทราบว่า สิ่งที่บริษัท ฯ กระทำกับลูกจ้างแบบนี้ ถูกต้องหรือไม่ค่ะ และหากลูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม จะฟ้องร้อง อะไรได้หรือไม่ค่ะ  ??????

ตอบ บริษัทก็คงจะทำไม่ถูกซะทีเดียว แต่ประเด็นปัญหาก็คือ การที่แฟนคุณไปเซ็นต์ใบลาออกนี่ซิคือปัญหา เพราะเป็นการตัดช่องทางที่จะไปใช้สิทธิในทางศาลในการเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งทนายก็ได้พร่ำบอกอยู่เสมอๆว่า หากคิดว่าเราไม่ได้ทำผิด ก็ไม่ต้องเซ็นต์ใบลาออก ถ้าลาออกเมื่อไหร่ ทุกอย่างก็คือจบครับ

หากยังสงสัยก็สอบถามเข้ามาได้ใหม่นะครับ

ขอให้โชคดีครับ

ทนายพร

Okana

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
Re: ตรวจสารเสพติด โดยวิธีปาดเหงื่อ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 06, 2017, 04:09:18 pm »
ตรวจสารเสพติด โดยวิธีปาดเหงื่อ ได้ด้วยหรอครับยังไม่เคยเจอมาก่อนเลย