29/03/24 - 18:16 pm


ผู้เขียน หัวข้อ: ถูกฟ้องคดีบัตรเครดิต  (อ่าน 25048 ครั้ง)

เนาว์

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
ถูกฟ้องคดีบัตรเครดิต
« เมื่อ: มิถุนายน 03, 2017, 04:46:51 pm »
สวัสดีครับ...ข้อสอบถามเรื่องคดีเงินกู้บัตรเครดิตหน่อยครับ คือตอนนี้ธนาคารยื่นฟ้องผมแล้วและศาลส่งหมายนัดเดือนสิงหา...คือตอนนี้ผมไม่มีรายได้ตกงานมีแต่งานรับจ้างเป็นบางครั้งผมยังไม่มีเงินใช้เค้า...ผมก็มีแต่คอนโดฯที่ผ่อนหมดแล้วและรถเก๋งเก่าๆอยู่คันนึ่งและทีนี่ผมจะทำอย่างไรและจะโดนจำคุกหรือป่าวครับ...ยอดประมาณ8หมื่นครับ

มโนธรรม

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 201
    • ดูรายละเอียด
Re: ถูกฟ้องคดีบัตรเครดิต
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 05:39:07 am »
บัตรเครดิต

  ควรไปศาลตามนัด ใช้การเจรจาขอผ่อนส่งในจำนวนที่ยอมรับได้ของทั้งสองฝ่าย  ถ้าไม่ไปศาล  ก็มีช่องทางพิจราณาคดีลับหลังได้(โดยการขาดนัด)  ผลก็คือ ศาลคงให้ใช้หนี้ตามฟ้อง   ถ้าไม่ใช้หนี้   อาจถูกบังคับคดี  โดยการยึดทรัพย์ได้ ดังนั้นควรไปศาล ใช้การเจรจาแต่แรก เป็นเรื่องทางแพ่ง ไม่มีโทษต้องถูกจำคุก  แต่ถ้าถูกบังคับคดี ก็ร้ายแรงไม่น้อยกว่าถูกจำคุกนะ ครับ

ทนายพร

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 750
    • ดูรายละเอียด
Re: ถูกฟ้องคดีบัตรเครดิต
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2017, 01:09:42 am »
มาแว้ว มาแว้ววว..ทนายมารายงานตัวแล้ว หลังจากหายหน้าหายตาไปซะหลายวัน...เอาเป็นว่า วันนี้จะมาตอบคำถามทุกคำถามที่ค้างคาเลยนะครับ (ออกตัวๆ)

ถามว่า โดนฟ้องเงินกู้บัตรเครดิต แต่ไม่มีเงินจ่าย ต้องทำอย่างไร?

อืมมม...คำถามนี้เชื่อว่าเป็นคำถามยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนละครับ อาจจะไม่ใช่แค่บัตรเครดิดอย่างเดียว คงมีบัตรกดเงินสด บัตรผ่อนสินค้า รวมถึงการผ่อนชำระบ้าน รถ และอีกจิปะถะให้ได้เป็นหนี้ล่ะครับ เอาละ มาว่ากันเลยว่าต้องทำอย่างไร

อย่างแรก ..อ่านคำฟ้องของโจทก์ให้เข้าใจว่า เค้าฟ้องเอาอะไรบ้าง เช่น , เงินต้น,ดอกเบี้ย,เบี้ยปรับ, และฯลฯ ดูแล้วมันสมเหตุสมผลมั๊ย
อย่างที่สอง..มีข้อต่อสู้อย่างไร สู้ได้หรือไม่ได้ ซึ่งก็จะมีเรื่องอายุความ (กระซิบบอกก็ได้และเรื่องนี้ก็ชนะคดีอยู่เนืองๆนะครับ คือ หนี้บัตรเครดิต อายุความ ๒ ปี , บัตรกดเงินสด ๕ ปี ผ่อนรถผ่อนบ้าน, กูเงินตามสัญญาเงินกู้ ๑๐ ปี..รู้ยังๆ) เรื่องดอกเบี้ย , เรื่องเบี้ยปรับ ดูซิว่าจะพอมีหนทางสู้ได้มั๊ย อาจจะต้องปรึกษาผู้รู้ซักหน่อยล่ะครับ
อย่างที่สาม..ไปศาลตามนัด เมื่อไปถึง ก็ถามทนายโจทก์ไปเลยว่า  "ลดได้เท่าใหร่"  อัยยะ..หลายท่านอาจสงสัย ไม่ใช่ซื้อขายผักปลานะเฟ้ยทนาย ต่อรองกันได้ด้วยรึ..ทนายก็ตอบว่า ต่อได้แน่นอนครับ เพราะโดยปกติบริษัทไฟแนนท์หรือธนาคารก็จะมี "ยอด" ในใจอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ ๗๐-๘๐ เปอร์เซ็นต์ของยอดฟ้อง ต่อเลยอย่าอาย ท่านจะได้ยอดที่น่าสนใจเลยทีเดียว

หลังจากได้ยอดแล้ว ท่านก็มานั่งคิดคำนวนและประเมินว่าจะชำระหนี้ได้มั๊ย? หากได้ ก็ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ หากไม่ได้ ก็ให้ศาลพิพากษาไป ซึ่งทั้งสองทางมีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ

ข้อดีของการทำสัญญาประนีประนอมยอมความก็คือ หากสามารถชำระหนี้ได้ ก็จะทำให้หนี้นั้นเข้าสู่ระบบและมีโอกาสหมดหนี้ได้ ด้วยการแบ่งชำระเป็นงวดๆ แต่ข้อเสียคือ หากคุณผิดนัดชำระหนี้งวดใดงวดหนึ่ง เค้าก็จะบังคับคดีด้วยการยิดทรัพย์สินของคุณขายทอดตลาด

ส่วนข้อดีของการให้ศาลพิพากษา ก็คือ ศาลอาจจะพิพากษาให้น้อยกว่าที่โจทก์ฟ้องก็เป็นได้ เนื่องจากศาลจะมองว่า คุณได้เสียดอกเบี้ยไปมากน้อยขนาดใหนแล้ว ส่วนเบี้ยปรับ , ค่าติดตามอะไรพวกนี้ ศาลก็จะปรับลดให้ครับ ส่วนข้อเสียกคือ เมื่อศาลตัดสินแล้ว คุณต้องชำระหนี้เป็นก้อนใหญ่ละครับ หากครบกำหนด ๓๐ วันนับแต่วันพิพากษา โจทก์ก็จะตั้งเจ้าพนักงานบังคัดคดี ยึดทรัพย์สินขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้ต่อไป

กรณีของคุณ เสี่ยงครับหากไม่ไปศาล เพราะคุณมีทรัพย์สินคือ คอนโดและรถเก๋ง ถึงจะเก่า เจ้าหนี้ก็ยึดนำไปขายทอดตลาดได้หมดแหละครับ แนะนำให้ไปเจรจาครับ

ส่วนความกังวลว่าจะติดคุกมั๊ยนั้น...ทนายขอตอบว่า ไม่ติดแน่นอนครับ เว้นแต่คุณจะไปต่อยทนายที่ศาลครับ...ล้อเล่นครับ..อิอิ

เนี๊ยะเป็นงี้แหละทนาย..ถามสั้นๆ แต่ตอบยาววววววววว

ขอให้โชคดีครับ

ทนายพร


เนาว์

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
Re: ถูกฟ้องคดีบัตรเครดิต
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2017, 10:45:32 am »
ขอบคุณมากครับ
ผมจะไปตามนัดครับ...แล้วผมต้องมีทนาย ไปด้วยหรือต้องเตรียมอะไรบ้างครับช่วยแนะนำผมหน่อยครับ

มโนธรรม

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 201
    • ดูรายละเอียด
Re: ถูกฟ้องคดีบัตรเครดิต
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2017, 10:20:19 am »
การไปศาล
   ไม่ต้องมีทนายก็ได้  เพราะคดีไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย  แต่ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจ ให้พร้อม คือ สำรวจตัวเองว่า มีรายได้เดือนละเท่าไร คงเหลือเท่าไร  ถ้าผ่อนใช้หนี้บัตรเครดิตแล้ว จะมีเงินเหลือเพียงพอกับค่าครองชีพ ตลอดเดือนหรือไม่...การเจรจาที่ศาล  ก็มักให้จ่าย 24 งวด หรือ 36 งวด จากยอดหนี้ทั้งหมด  ลองคำนวณคร่าวๆ ก็คงพอทราบว่า จะไหวมั้ย  ด้วยความปรารถนาดี ครับ