ความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความอยุติธรรม (justice delayed is justice denied) เฉกเช่นคำขวัญศาลแรงงานที่ว่า "ประหยัด สะดวก รวดเร็วและเที่ยงธรรม" ก็ด้วยการตระหนักว่าความยุติธรรมมิใช่เพียงการตัดสินโดยองค์กรตุลาการที่เป็นกลางเท่านั้น หากต้องมิใช่กระบวนการที่ใช้เวลายาวนาน เพราะคำตัดสินที่มาอย่างเชื่องช้าอาจทำให้ผู้ได้รับความเสียหายไม่สนใจต่อการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ทั้งยังทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างคู่ความที่ไม่มีความเท่าเทียมกัน
“นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ” เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง การดำเนินการคืนสภาพผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนได้กลับเข้าสู่ระบบประกันสังคม เช่นเดิมอีกครั้งว่า ขณะนี้สำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการติดตามผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพกลับเป็นผู้ประกันตน โดยส่งหนังสือแจ้งไปยังกลุ่มผู้มีสิทธิจำนวน 777,228 คน
ทั้งนี้ มีผู้ประกันตนติดต่อกลับสู่ระบบประกันสังคมแล้วกว่า 363,000 คน โดยแบ่งเป็นขอกลับคืนสิทธิเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 148,363 คน และกลับเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาสมัครมาตรา 40 หรือขอรับสิทธิ ชราภาพ/หรือทายาทมาขอรับสิทธิกรณีตาย ไปแล้วจำนวน 214,637 คน อย่างไรก็ดีขอให้ผู้ประกันตน มาตรา 39 ที่จะคืนสภาพรีบดำเนินการติดต่อที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งที่ท่านสะดวก หรือทางไปรษณีย์ (แนบแบบ สปส. 1-20/1) หรือทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 19 เมษายน 2562
โดยผู้ประกันตนจะต้องชำระเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปนับแต่วันที่ได้รับอนุมัติให้กลับเป็นผู้ประกันตน โดยจ่ายเงินสมทบครบตามเงื่อนไขได้หลายช่องทางด้วยกันคือ จ่ายด้วยเงินสด ณ สำนักงานประกันสังคมได้ทั่วประเทศ หรือผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาต ทุกสาขา ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขา (seven – eleven) ผ่านระบบ Pay at Post ที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ หรือจ่ายทางธนาณัติ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ พร้อมแนบแบบส่งเงิน ( สปส.1-11) ส่งให้สำนักงานประกันสังคมผ่านเคาน์เตอร์เซ็นเพย์ (บริษัทห้างเซ็นทรัล)
อีกทั้งยังสามารถจ่ายเงินสมทบโดยวิธีหักบัญชีธนาคาร 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาติ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพ โดยผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะได้รับสิทธิประโยชน์ 6 กรณีเช่นเดิม คือ กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย กรณีคลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ
สำนักงานประกันสังคมขอย้ำให้ผู้ประกันตนปกป้องสิทธิของตนเอง โดยให้ความสำคัญในการตรวจสอบการนำส่งเงินสมทบด้วยตนเองกับสำนักงานประกันสังคม อย่างสม่ำเสมอ และควรนำส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง หากผู้ประกันตนขาดส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน หรือภายในระยะเวลา 12 เดือน ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่ครบ 9 เดือน จะสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนทันที โดยผู้ประกันตนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง หรือจังหวัด สาขา ที่สะดวก หรือ โทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)
อ่านข่าวแรงงาน CLICK ที่นี่...
อ่านข่าว click ที่นี่...
อ่านข่าวมติชน click ที่นี่...
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ย้ำ สิทธิการรักษาพยาบาลในระบ...
ผ่อนรถไม่ไหว อยากจะคืนรถทำอย่างไร ทนายพรนารายณ์ ทุยยะค่าย 6 มีค. 67 &nb...
CLICK ที่นี่...
ค้นหากดที่นี่...
CLICK ที่นี่...
ในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในวิธีการทำงานที่ลูกจ้างสามารถทำงานที่บ้านมากขึ้น...