ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ข้อความที่เริ่มโดย: สุรพล สมพร ที่ มีนาคม 27, 2019, 03:53:09 pm
-
สวัสดีครับ ผมมีปัญหาขัดแย้งกับนายจ้างมาปรึกษาครับ ผมทำงานการแพทย์ติดต่อกับหมอ ผูัรับเหมาเสมอ มีหมอท่านต้องการทำระบบท่อเดรนคลินิค ผมเลยแนะนำช่างที่มีประสบการณ์ให้(นายหน้า) พอช่างเข้าดำเนินการเสร็จสิ้น ส่งงาน หมอท่านนี้แจ้งมีปัญหาน้ำรั่ว ซึ่งทางช่างก็เข้าแก้ไขจุดนี้แล้วครับและมีแจ้งทำงานเพิ่มโดยที่ผมไม่รับรู้ หลังจากนั้น หมอท่านนี้ติดต่อขอซื้อปั้มลมกับทางผม ซึ่งผมเองก็ได้อำนวยความสะดวกจัดหาสินค้าดังกล่าวให้หมอท่านนี้ เพราะหมอไม่ทราบสเป๊กปั้มลม โดยตกลงซื้อขายกันปากเปล่า โอนเงิน ติดตั้งเรียบร้อย เวลาผ่านไป1ปีเศษ สินค้าที่บริษัทผมขายให้กับหมอท่านนี้ มีปัญหา(เก้าอี้ทำฟัน) หมอท่านนี้ไม่พอใจในงานบริการของบริษัท โดยยึดโยงเรื่อง ช่างรับเหมา ปั้มลม มาเกี่ยวข้องเป็นปะเด็นในการร้องเรียน บริษัทผมทราบข่าวซึ่งเรียกไปคุยแจ้งว่าผมใช้เวลาทำงานไปแสวงหาประโยนช์ส่วนตัว ซึ่งผมยืนยันว่าอำนวยความสะดวกให้หมอ และได้ขออนุญาต หน.งาน ผู้ใหญ่ในบริษัทแล้ว และงานที่ทำก็ทำในช่วงวันหยุด เสาร์อาทิตย์ และส่วนงานที่ผู้รับเหมาทำ ก้ได้แก้ไขไปนานมากแล้ว ตัวหมอเองก้พอใจการแก้ไขครั้งนั้น และหมอท่านนี้ก้ไม่ได้ติดต่อผมเป็นเวลาเกือบปีแล้ว ไม่ได้แจ้งปัญหาใดๆ ระบบท่อยังปกติไม่พบปัญหา ปั้มลมผมก็ยังคงปกติไม่มีปัญหาใดๆ อยากจะปรึกษาทนายว่าเคสผม ผมต้องทำอย่างไรต่อครับ ณเวลานี้ ติดต่อหมอท่านนี้ไม่ได้แล้ว บริษัทก็เชิญให้ออกสิ้นเดือนนี้ แต่ผมไม่ยอมเซ็นต์เอกสาร ผมแจ้งประมาณว่าหากจะไล่ออกก็ได้ จะเอาเอกสารไปยื่นฟ้องศาลแรงงานกลาง ครับ ผมควรทำอย่างไรต่อครับ ทนายพร ขอบคุณครับ
-
อ่านคำถามเหมือนว่าทนายจะเคยตอบคำถามทำนองนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่าหาไม่เจอ..555
เอาเป็นว่า ตอบใหม่ละกันตามคำถามและมั่นใจว่า คำตอบก็จะเหมือนเดิมทุกประการ
ดังนี้ครับ จากการที่อ่านเรื่องราวดูเหมือนว่าจะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน กรณีทำงานอื่นควบคู่กับงานประจำ และมีปัญหาว่าบริษัทกล่าวอ้างว่าคุณสุรพล มีผลประโยชน์ซ้ำซ้อน ทั้งๆที่ได้แจ้งขออนุญาตผู้หลักผู้ใหญ่ไว้แล้ว แต่บริษัทก็จะเชิญให้ออกสิ้นเดือนนี้ (วันนี้คงให้ออกแล้วมั๊ง) แล้วถามว่า ควรทำอย่างไร?
ทนายก็ตอบว่า อย่างแรกที่คุณสุรพล ไม่ควรทำคือการเขียนใบลาออกนะครับ และก็ทำถูกแล้วที่ไม่ยอมเซ็นต์เอกสารใดๆ แต่จริงๆหากมีหนังสือเลิกจ้างก็เซ็นต์รับมาได้นะครับ แต่ต้องดูให้ดีว่า หนังสือเลิกจ้างนั้น ต้องไม่ระบุว่า "จะไม่เรียกร้องหรือฟ้องร้องบริษัทอีก" แต่ถ้ามีข้อความข้างต้นนี้ ก็ห้ามเซ็นต์นะครับ มิเช่นนั้นจะไม่สามารถฟ้องร้องได้ หรือฟ้องได้ก็ไม่ชนะคดีครับ
ดังนั้น หากบริษัทเลิกจ้างหรือถูกเชิญให้ออก ก็สามารถไปใช้สิทธิได้สองทาง คือ
๑.หากประสงค์จะเรียกร้องค่าชดเชย , สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ก็ไปยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน ซึ่งในช่องทางนี้จะใช้เวลาประมาณ ๖๐ วันครับ
๒. ไปใช้สิทธิทางศาล หากประสงค์จะเรียกค่าชดเชย , สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ก็ไปใช้สิทธิทางศาล ซึ่งระยะเวลาในศาลชั้นต้นก็ไม่น่าจะเกิน ๑ ปี ครับ
เลือกช่องทางเอาครับ
ทนายพร
-
ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจะหาได้จากที่ไหนบ้างครับรบกวนแนะนำหน่อยครับ