06/05/24 - 17:55 pm


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - สนามหญ้า

หน้า: [1]
1
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: สอบถามเรื่องรถชน
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2014, 12:16:34 am »
ขอบคุณคุณทนายมากครับที่ช่วยตอบคำถาม

“ผมขับรถยนต์บนถนนสี่เลนส์อยู่ที่เลนส์ซ้ายสุด ตีมากับรถจักรยานยนต์” แสดงว่า รถจักรยานยนต์ขับบนไหล่ทางใช่หรือไม่ครับ? ตอบ จักรยานยนต์ขับอยู่บนไหล่ทางด้านซ้าย ล้ำเข้ามาในเลนส์ที่ผมขับอยู่ระยะห่างจากเส้นขอบอย่างน้อยน่าจะ 20 เซนติเมตรครับ(รถจักรยานยนต์คันอื่นๆที่ขับอยู่ด้วยกันก็ล้ำเข้ามาเหมือนกัน แต่มากน้อยแล้วแต่คัน)

๒.   “ลักษณะการชนคือท้ายรถของผม โดยถนนคือการเข้าโค้งด้านขวา ผมได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไรจากกรณีนี้บ้างหรือไม่”  ถ้าพิจารณาจากเนื้อเรื่องที่เล่ามานี้ก็เห็นว่ารถคุณโดนชนครับ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีหลักฐานประกอบในการพิจารณาอีกชั้นหนึ่งครับ เช่น รูปถ่ายสถานที่เกิดเหตุ,รูปรถ อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้น จึงจะฟันธงยากอยู่ครับ ต้องพิจารณาจากข้อมูลเพิ่มมากกว่านี้ครับ
     อันนี้ผมได้ถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุและรูปรถไว้ครับ แต่ตอนที่เกิดเหตุที่รถจักรยานยนต์ล้มเลยนั้นไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะตกใจและตอนสำรวจอยู่ว่าใช่รถตัวเองหรือไม่ที่เกิดเหตุ จักรยานยนต์ล้มอยู่บริเวณกลางถนนระหว่างเลนส์หนึ่งกับเลนส์สองครับ(ไม่มีรูปถ่าย) อย่างที่บอกว่าทีแรกผมไม่แน่ใจว่าเป็นรถตัวเองหรือไม่ผมจึงไม่ได้จอดรถในตอนที่ชนทันที แต่ขับเลยมาเพื่อจอดเข้าข้างทางครับ ส่วนความเสียหายรถผมคือมีรอยขูดที่แม็กซ์ล้อหลังด้านซ้ายและบังโคนล้อหลังที่เป็นพลาสติกฉีกขาด ความเสียหายรถคู่กรณีไม่ได้มีอะไรชัดเจนว่าส่วนไหนที่เสียหายจากการชนส่วนไหนที่เสียหายอยู่แล้ว เพราะเป็นรถกลางเก่ากลางใหม่และตอนที่ญาติของเขามาเขาก็พูดกับคนที่อยู่ในที่นั้นว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็พึ่งโดนเฉี่ยวไป(แต่เป็นตอนกลางคืนและคู่กรณีหนี)

สุดท้ายผมอยากขอบคุณคุณทนายอีกครั้งครับที่ช่วยเหลือ ทีแรกผมเป็นกังวลมากว่าการรับผิดกับประกันจะมีผลต่อทางคดีในขั้นตอนต่อไป ผมไม่มีความกังวลถ้าหากเขาจะฟ้องร้องทางแพ่งเพราะคิดว่าขั้นตอนคงจะยุ่งยากตำรวจคงจะไม่อยากทำสำนวนฟ้อง และค่าเสียหายที่ศาลจะพิจารณาให้จ่ายก็คงจะไม่ได้เกินความเหมาะสมที่ผมจะจ่ายได้ เพราะการบาดเจ็บของคู่กรณีคือแผลช้ำและถลอกบริเวณแขน หัวเข่า หัวโนช้ำ และบาดแผลเล็กที่หน้าหนึ่งจุด แต่คู่กรณีพยายามยืดเยื้อเหตุการณ์และพูดจาเชิงข่มขู่ครับ ผมมีความกังวลว่าจะมีคดีทางอาญาเป็นประวัติมากกว่าครับ แต่อย่างไรผมก็ไม่ได้หนีหรือปฏิเสธความรับผิดเลยนะครับ

2
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / สอบถามเรื่องรถชน
« เมื่อ: สิงหาคม 18, 2014, 10:45:36 pm »
เกิดกรณีรถเฉี่ยวชน โดยผมขับรถยนต์บนถนนสี่เลนส์อยู่ที่เลนส์ซ้ายสุด ตีคู่มากับรถจักรยานยนต์ ซึ่งในจังหวะที่ขับขึ้นมาเรื่อยๆ และเข้าโค้งทางด้านขวาก็สังเกตเห็นว่ารถจักรยานยนต์ค่อนข้างจะเบี่ยงมาทางขวามากจึงพยายามท่จะเปลี่ยนเข้าเลนส์ขวาให้มากที่สุด แต่เนื่องจากมีรถตามมาข้างหลังจึงทำให้เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้

จังหวะนั้นรถจักรยานยนต์จึงเกี่ยวเข้าที่ล้อหลังทำให้รถจักรยานยนต์ล้มและบาดเจ็บ ผู้ขับขี่รถยนต์เองทีแรกก็ไม่แน่ใจว่าเกิดเหตุกับรถตัวเองหรือคันอื่นแต่ก็จอดรถเพื่อรับผิดชอบ เมื่อดูที่รถด้านหลังก็เห็นว่าเป็นรถตัวเองที่เกิดเหตุ จึงได้ติดต่อประกันเพื่อรับผิดชอบ

จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บริเวณนั้นพอดี เดินเข้ามาติดต่อ ผมได้ถามตำรวจไปว่าผมเป็นฝ่ายถูกใช่หรือไม่ เนื่องจากมั่นใจว่าไม่ได้ขับไปเบียดรถฝั่งซ้ายอย่างแน่นอน แต่อาจจะผิดในกรณีขับรถคร่อมมาด้านขวาเนื่องจากต้องการที่จะหลบ ตำรวจตอบว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่มีคนเจ็บก็อยากให้เราช่วยเหลือเค้าและพูดคุยตกลงกัน

เมื่อประกันมาถึงผมก็ต้องการที่จะจบเรื่องโดยเร็วที่สุด โดยสอบถามกับทางประกันว่าถ้าจบง่ายๆคือทางเราเป็นฝ่ายผิดประกันก็จะซ่อมรถและช่วยค่ารักษาพยาบาลค่าสินไหมให้ฝ่ายรถจักรยานยนต์ได้ใช่หรือไม่ ประกันก็บอกว่าทำได้ แล้วแต่ทางลูกค้า แต่เมื่อให้ทางประกันเจรจาแล้วคู่กรณีไม่ยอม พร้อมเรียกร้องค่าทำขวัญ 10,000  บาท ผู้บาดเจ็บบาดเจ็บไม่ถึงขั้นนอนโรงพยาบาล

ผมเห็นว่าเป็นการเรียกร้องที่มากเกินไป อีกทั้งคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเต็มที่ขนาดนั้น ทางประกันจึงแนะนำให้ไม่ต้องมีการจ่ายค่าทำขวัญและให้มีการลงบันทึกประจำวันและนัดเจรจากันในรอบต่อไป

อยากสอบถามว่า กรณีนี้ถือเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยมาก แต่คู่กรณีไม่มีท่าทียอมรับข้อเสนอตามที่เราชดใช้ได้ การดำเนินการขั้นต่อไปทางตำรวจต้องเป็นคนชี้ว่าฝ่ายไหนผิดใช่มั้ยครับ
ถ้าหลักฐานลักษณะการชนคือท้ายรถของผม โดยถนนคือการเข้าโค้งด้านขวา ผมได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไรจากกรณีนี้บ้างหรือไม่
การที่ยอมรับผิดกับประกันในขั้นแรกทำให้เสียเปรียบหรือไม่กรณีหากไม่มีการยอมความกันจริงๆและต้องฟ้องศาลต่อไป

ผมเข้าใจว่าการยอมความเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่การรับผิดชอบเกินกว่าขอบเขตที่เหมาะสมผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยครับ  ม้

ขอบคุณครับ

หน้า: [1]