คดียาเสพติด

  ในเมื่อข้อเท็จจริงไม่ชัดเจนเพียงพอ  ก็คงตอบได้ลำบาก   แต่การมียาเสพติด และปืน ในครอบครอง  จะมีโทษสูงพอสมควร  การขอปล่อยตัวชั่วคราว ก็ยื่นเรื่องไปตามขั้นตอน อาจจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว....ส่วนการลงโทษ อย่างไร เป็นอำนาจของศาลเท่านั้น  คงตอบไม่ได้...

การเลิกจ้าง

1.ในกรณีอย่างนี้ ถ้าผมหยุดไปทำงานเลย เพื่อที่เตรียมตัวจะไปฟ้องร้องต่อกรมแรงงาน ผมจะโดนข้อหาขาดงานเกินสามวันมั๊ยครับ

ตอบ...ถ้าขาดงานติดต่อกันสามวัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร  ก็เป็นเหตุให้ถูกเลิกจ้าง โดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยได้ ตาม พรบ.คุ้มครองแรงงานฯ ม.119(5)
 2.การบอกเลิกจ้างแบบนี้ ถือว่าบังคับได้มั๊ย

ตอบ...ก็เข้าข่ายเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ที่นายจ้างต้องจ่ายเงินชดเชย  ถ้าทำงานครบ 120 วัน จะได้ค่าชดเชย 30 วัน ฯ....(ความเห็น)  การไปอัดเสียงไว้  ก็ดูจะเป็นความรอบคอบ ที่ใช้อ้างอิงได้ว่า ถูกบีบให้ลาออก  แต่..ก็เป็นดาบสองคม....ถ้านำไปอ้างอิง ในกรณีมีข้อพิพาท อาจจะถูกหมายหัวว่า เป็นบุคคลอันตราย  การจะไปหางานใหม่ อาจต้องยุ่งยากลำบาก เพราะในสังคมออนไลน์  สามารถส่งข้อมูลถึงกันได้ ในชั่ววินาที...ด้วยความปรารถนาดี ครับ
 3.ผมมีความจำเป็นต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ผมสามารถไปทำเรื่องที่ต่างจังหวัดได้มั๊ย(หมายถึงการไปยื่นร้องเรียนที่กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน) คือคนละที่กับที่ผมทำงานอยู่
 4.ส่วนการยื่นขอเงินชดเชยกับประกันสังคม ผมควรให้เรื่องนี้จบก่อนค่อยยื่น หรือว่ายื่นได้เลยครับ
ตอบ..3-4  เป็นระเบียบปฏิบัติ ขอแนะนำให้สอบถาม พนักงานตรวจแรงงาน ในท้องที่ที่ลูกจ้างทำงานก่อน ( ม.123)

การขอปล่อยตัวชั่วคราว

   ตามข้อเท็จจริง  ในเมื่อไปกระทำความผิดอีก ในช่วงการรอการลงโทษไว้  ก็จะมีการนำโทษที่รอไว้  มาลงโทษจริง (ต้องไปดูคำพิพากษาว่า ศาลให้ลงโทษจำคุกกี่ปี  แต่ ให้รอการลงโทษไว้)  ส่วนความผิดครั้งหลัง  ถ้าศาลให้ลงโทษจำคุก  ก็คงมีการเพิ่มอีกกึ่งหนึ่ง ของโทษที่ลงในคดีหลัง...การขอประกันตัว หรือการขอปล่อยตัวชั่วคราว  ก็สามารถยื่นเรื่องขอปล่อยตัวฯได้  โดยวางหลักทรัพย์ตามที่กำหนด(ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ฯ)  แต่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่  เป็นดุลพินิจของศาลเท่านั้น  คงตอบไม่ได้ ครับ...เพิ่มเติม   ถ้าไม่ได้รับการประกันตัว   ก็คงมีการฝากขังที่เรือนจำ ครับ

ใช่ ครับ

การตั้งข้อหา...

  ก็อยู่ที่ข้อเท็จจริง  จากการสืบสวนและสอบสวน... ถ้ามีปริมาณเพียงเล็กน้อย  ต้องหาทางพิสูจน์ว่า มีไว้เพื่อเสพ  คงต้องมีทนายช่วยเหลืออย่างจริงจัง

การเลิกจ้าง
  กรณีของคุณคงถูกเลิกจ้าง ที่นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย  ตาม พรบ.คุ้มครองแรงงานฯ  ม.119(4) คือฝ่าฝืนข้อบังคับฯ...ถึงขั้นจิกผมคู่กรณี คงถือว่าร้ายแรง  คงไม่ต้องมีการเตือน  ก็ให้ออกได้....ถ้าคิดว่าไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นธรรม  คงต้องฟ้องศาลแรงงาน...

กระบวนการยุติธรรม

  เรื่องแพ้  หรือ ชนะ  คงมาสรุปกันง่ายๆไม่ได้  เพราะเมื่อเกิดคดีความ  ก็เป็นทั้งปัญหาข้อเท็จจริง  และปัญหาข้อกฎหมาย  ต้องหาทางพิสูจน์ตนให้พ้นผิด ซึ่งต้องใช้ทั้ง ศาสตร์และศิลป์ ชั้นสูง  ซึ่งไม่แตกต่างจากการทำสงครามในสมรภูมิ เรื่องแพ้ หรือชนะ จึงมีโอกาสขึ้นได้เสมอ  จึงได้แนะนำให้หาทนายความช่วยเหลือในการต่อสู้คดี ครับ