ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ข้อความที่เริ่มโดย: tongkunk ที่ พฤษภาคม 04, 2020, 12:00:33 am
-
สวัสดีครับ ผมเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งเท่าที่หาข้อมูลเองหากมีปัญหาไม่สามารถร้องเรียนกรมแรงงานได้
ประเด็นคือผมหมดสัญญาจ้าง30เมษายน2563โดยได้รับการแจ้งปากเปล่าช่วงต้นเดือนมกราคมว่าจะไม่ต่อสัญญาให้เนื่องจากประเมินไม่ผ่านเกณฑ์
ผมทำงานครบปีที่7ปกติสัญญาจ้างจะต่อทุก 3 ปี ผมได้ยื่นเรื่องตรงถึงอธิการบดีของทางมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับปัญหานี้
เนื้อความคร่าวๆคือผมไม่เห็นด้วยกับผลการประเมิน ไม่มีหลักฐานการประเมินหรือเอกสารอื่นใด ผมถูกพยายามหว่านล้อมให้ลาออก ผอ.กดดันให้หัวหน้าผมใส่คะแนนน้อยกว่าที่ควรเพิ่อให้คะแนนรวมผมไม่ถึงเกณฑ์(ตอนนี้ ผอ คนนี้ลาออกแล้วก่อนผมหมดสัญญาจ้าง) และอื่นๆ ซึ่งในตอนนี้ ณ วันที่ 1 พค2563 ผมหมดสัญญาจ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือยุติการจ้างหรือเอกสารใดๆ ไปถามส่วนกลางมหาวิทยาลัยและคณะ ได้คำตอบคือเรื่องค้างอยู่ในช่วงข้อพิพาท และยังไม่สรุปผล
ข้อพิพาทเกิดมาจากการที่ผมยื่นร้องเรียน และมีข้อบังคับใหม่ที่ออกใหม่ของทางมหาวิทยาลัย สองข้อที่ขัดแย้งกันอยู่คือ ระบุไว้ว่าผู้ที่สัญญาจ้างอยู่หลังข้อบังคับใหม่ ให้ทำงานและได้สิ่งต่างๆตามเดิม ซึ่งผมเข้าข่ายในข้อนี่ และ อีกข้อคือ การประเมินไดที่อยู่ระหว่างข้อบังคับเก่าให้ทำจนแล้วเสร็จต่อไปซึ่งการประเมินของผมก็อยู่ในข้อบังคับเก่าเช่นกัน
ปัญหาคือตอนนี้ผมไปสอบถามทางคณะว่าผมยังต้องทำอยู่หรือไม่ คำตอบคือไม่ทราบ ต้องรอข้อข้อพิพาทจบ ซึ่งหากผมทำงานแล้วข้อพิพาทให้ผมต่อสัญญาผมก็จะได้เงินเดือน แต่หากไม่ก็อาจจะเป็นการทำงานฟรี เท่ากับว่าในตอนนี้ผมไม่ทราบเลยว่าสิ้นเดือนนี้ผมจะมีเงินใช้จ่ายหรือไม่
ที่คิดไว้คือถ้าคำตอบชัดเจนว่าผมหมดสัญญาและไม่จ้างต่อ หมายถึงมีหนังสือแจ้งหรือได้รับการยืนยัน ผมจะไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานของประกันสังคมเพื่อรับเงินชดเชย และใช้เวลาระหว่างนี้หางานและทำเท่าที่หาได้ แต่จะติดปัญหาหากที่ทำงานเก่าให้ผมต่อสัญญาแต่ตัวผมไม่ได้มาทำงานก็จะมีความผิดในเรื่องนี้
คำถามที่ผมสงสัยคือโดยปกติแล้วกรณีแบบนี้ผมยังมีสิทธ์ทำงานและได้รับเงินเดือนอยู่หรือไม่ เพราะเรื่องยังไม่จบ และไม่มีการยืนยันว่าสิ้นสุดการจ้าง
อีกคำถามคือผมสถานะการจ้างงานของผมตอนนี้อยู่ในข่ายของคนว่างงาน และยื่นเรื่องเป็นคนว่างงานตามประกันสังคมมาตรา33ได้แล้วหรือไม่
ผมเครียดมากเลยครับตอนนี้กลายเป็นว่าจะไปทำงานก็ไม่รู้ได้เงินหรือไม่ จะไปทำงานนอกเต็มเวลาก็กลัวมีปัญหาหากได้ต่อสัญญาต่อ ผู้ใหญ่ในที่ทำงานบอกให้ผมไปทำงานทุกวันห้ามขาดแต่ไม่มีใครบอกผมได้ว่าสถานะการจ้างผมเป็นอย่างไร
หมายเหตุ ปกติเวลาต่อสัญญาจะต้องเซนเอกสารสัญญาจ้างใหม่ แต่ในรอบนี้มีข้อบังคับใหม่ออกมา ยังไม่มีใครในที่ทำงานผมได้เซนสัญญาจ้างใหม่ เพราะต้องรอกฎหมายลูกจากทางมหาวิทยาลัยออกก่อน ดังนั้นสถานะการจ้างคนในที่ทำงานผมคือหมดสัญญาจ้างเก่าทุกคนและกำลังอยู่ในช่วงรอเซนสัญญาจ้างใหม่ แต่มห้ปฏิบัติงานไปก่อน
ผมควรทำอย่างไรครับ ขอโทษมี่รบกวนนะครับ ผมพยายามหาข้อมูลแล้วหมดหนทางจริงๆ
-
การจ้างงาน
(ความเห็น) ก็ควรทำงานไปก่อน เรื่องค่าจ้าง เมื่อทำงาน ต้องมีการจ่าย ถ้าไม่จ่ายก็มีช่องทางฟ้องร้องทางแพ่งได้....เมื่อมีข้อพิพพาท หน่วยงาน(ม.วิทยาลัย) ก็คงต้องรอการสรุปผล ก็คงไม่มีใครทราบว่า จะมีข้อยุติอย่างไร...จากคำถาม คุณก็เป็นผู้มีความรู้ดี การเรียบเรียบเหตุการณ์ เป็นขั้นเป็นตอน เข้าใจได้ง่าย ดังนั้นการแก้ปัญหาของคุณน่าจะมีช่งทางแก้ไขได้ ขอให้โชคดี ครับ
-
อ่านเรื่องราวแล้วก็น่าอึดอัดไม่น้อย เพราะไม่มีความชัดเจนเลย แต่เชื่อเถอะว่า ทุกปัญหามีทางออกเสมอ :)
เอาเป็นว่า ผู้ถามเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย และไม่อยู่ภายใต้กฎหมายแรงงาน แต่มีกฎหมายเฉพาะคือพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๒ พ.ศ.๒๕๕๑ ซึ่งกำหนดให้พนักงานมหาวิทยาลัยมี ๓ ประเภท คือวิชาการ ซึ่งทำหน้าที่สอนและวิจัย , ประเภทผู้บริหาร เช่น อธิการบดี และประเภทวิชาชีพเฉพาะ หรือเชี่ยวชาญเฉพาะ รวมถึงประเภททั่วไปซึ่งแบ่งความเชียวชาญเป็นระดับเชียวชาญและชำนาญงาน ซึ่งพนักงานมหาวิทยาลัยจะได้รับค่าจ้างจากงบประมาณแผ่นดินหรือรายได้จากสถาบันเอง
ซึ่งทนายไม่ทราบว่า ผู้ถามอยู่ในประเภทใด สาย ก. สาย ข. สาย ค. หรือ สาย ง.
แล้วถามมาว่า จะทำงัยดี?
ทนายเห็นว่า เมื่อยังไม่มีความชัดเจนก็ควรจะไปทำงานตามปกติก่อน โดยขอให้มีบันทึกหรือเก็บหลักฐานการไปทำงานไว้ด้วยเผื่อว่าจะต้องนำไปใช้เป็นหลักฐานในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่า จะได้เงินเดือนหรือไม่ ก็ไปลุ้นในวันเงินเดือนออก ถ้าเงินเข้าปกติ ก็ไปทำงานตามปกติต่อไป แต่ถ้าเงินไม่เข้า ก็ค่อยมาแก้ปัญหากันต่อไป ซึ่งก็ต้องตั้งโจทย์ว่า จะไปเรียกร้องสิทธิที่หน่วยงานใด อย่างไร? แล้วค่อยๆพิจารณาทางเลือกให้ดีที่สุด
ซึ่งแน่นอนว่าได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ที่ ๒๙/๒๕๕๙ โดยเป็นกรณีพิพาทระหว่างพนักงานมหาวิทยาลัยนอกระบบแห่งหนึ่ง กับมหาวิทยาลัยนอกระบบแห่งหนึ่ง เพราะทางมหาวิทยาลัยไม่ต่อสัญญาจ้างกับพนักงานมหาวิทยาลัยตามระเบียบของมหาวิทยาลัยทำให้พนักงานมหาวิทยาลัยคนดังกล่าวได้รับความเสียหาย โดยพนักงานมหาวิทยาลัยได้นำเรื่องฟ้องต่อศาลแรงงานแต่ทางมหาวิทยาลัยให้การว่ามีฐานะเป็นราชการส่วนกลางได้รับการยกเว้นไม่ให้นำพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาใช้ โดยให้เหตุผลว่าการจ้างเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยนั้นเป็นการจ้างเพื่อสนับสนุนการจัดทำบริการสาธารณะ จึงเป็นสัญญาทางปกครองตาม มาตราสาม แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒ จึงอยู่ในอำนาจศาลปกครอง
และการฟ้องศาลปกครองก็ไม่ได้ยากอะไร ขอให้ถือหลักฐานเดินไปพบนิติกรของศาลปกครองได้เลยครับ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งหลักฐานที่ถือไปก็อย่าลืมหลักฐานการไปทำงานตามที่บอกไปข้างต้นด้วย และเรียกค่าจ้างในระหว่างที่ทำงานแล้วไม่ได้เงินด้วย
แต่ทั้งนี้ ต้องภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันที่รู้การละเมิดซึ่งก็คือวันเงินเดือนออกแล้วไม่ได้ตังค์นั่นแหละครับ
ให้กำลังใจครับ
ทนายพร.
-
ขอบคุณสำหรับคำตอบ นะครับ
ตอนนี้ผมตัดสินใจแล้วครับ ว่าจะมาทำงานตามปกติ เต็มเวลา โดยเช็คชื่อ ลงเวลางานในระบบไว้เป็นหลักฐาน
มีคำถามเพิ่มเติมครับ ล่าสุดทางมหาลัย แจ้งว่าอาจจะออกหนังสือยุติการจ้าง โดยมีผลให้หยุดปฏิบัติงานย้อนหลัง
ผมสงสัยว่าหนังสือราชการแบบนี้ ในทางกฏหมายสามารถออกได้หรอครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
-
ออกหนังสือให้มีผลย้อนหลังนั้น ทำได้ครับ ซึ่งจะเห็นกันทั่วไป เช่น เงินตกเบิกอย่างนี้เป็นต้น
แต่การทำหนังสือย้อนหลังโดยให้ผลเป็นโทษกับเราซึ่งได้ปฎิบัติหน้าที่ไปแล้วโดยสุจริตนั้น ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายครับ
ทนายพร.
-
ข้อมูลตรงจุดมากเลยครับ เหมือนได้คำตอบที่ค้างคา
ตอนนี้ผมหาช่องทางและมูฟออนชีวิตต่อไปครับ
ขอบคุณนะครับ