18/05/24 - 15:10 pm


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ทนายพร

หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 50
346
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: ครอบครองยาบ้า 9 เม็็ด
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2020, 03:44:17 pm »
กรณีอย่างนี้ ศาลท่านจะมองว่า "ไม่เข็ดหลาบ" ล่ะครับ

เอาเป็นว่าจากที่เคยได้รับความปราณีให้รอและคุมประพฤติ รอบหลังนี้ คงไม่มีเหตุให้รอแล้วล่ะครับ ซึ่งตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษฯ นั้นกำหนดให้ศาลเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงในรอบใหม่
ยกตัวอย่าง คดีแรก(รับสารภาพ) ได้รับโทษจำคุก ๒ ปี รอลงอาญา และถูกจับอีกในข้อหาเดียวกัน และรอบหลังถูกจับอีก ศาลตัดสินจำคุก ๒ ปี ก็จะเพิ่มโทษจากคดีแรกอีกกึ่งหนึ่ง คือเพิ่มอีก ๑ ปี รวม ๓ ปี อย่างนี้เป็นต้น

ออกมารอบนี้ก็ขอให้กลับตัวกลับใจใหม่นะครับ

ให้กำลังใจครับ

ทนายพร.

347
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: คดียาไอซ์
« เมื่อ: มกราคม 04, 2020, 04:49:43 pm »
อัยยะ..นานๆจะเห็นพนักงานสอบสวนทำสำนวนไม่ทัน แจ้งข้อหาผิด

เอาเป็นว่า เมื่อครบกำหนดฝากขังแล้ว พนักงานอัยการยังไม่ส่งฟ้องต่อศาล ศาลก็จะมีคำสั่งให้ปล่อยตัวจำเลยไป

แต่อย่าพึ่งดีใจไปนะครับ การที่ไม่สามารถฝากขังต่อได้ ก็เป็นเหตุผลเพียงไม่สามารถควบคุมตัวต่อไปได้เท่านั้น ความผิดยังคงมีอยู่ เมื่อพนักงานสอบสวนทำสำนวนเสร็จและส่งไปยังพนักงานอัยการ ก็จะมีหมายเรียกมายังท่านเพื่อให้ไปพบพนักงานอัยการ เมื่อไปพบพนักงานอัยการแล้ว ก็จะนำตัวท่านไปศาลและยื่นฟ้อง ขั้นตอนต่อไปก็ต้องประกันตัวล่ะครับ ถ้าไม่ประกันก็นอนห้องกรง

หรือถ้าท่านไม่ไปตามหมายเรียก ตำตรวจก็จะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับต่อไป หนี้ได้ก็หนี้ให้พ้นไปเกินกว่า ๒๐ ปี ก็รอด ถ้าไม่พ้นก็โทษหนักขึ้น

ส่วนประเด็นต้องตามที่ใหนนั้น ก็ต้องตามที่พนักงานสอบสวนนั่นแหละครับ ลองไปคุยกับเค้าดีๆ อาจมีทางออก! เพราะการครอบครองยาไอซ์น้ำหนัด ๐.๓๘๒ กรัม นั้น ถือว่ามีโทษสูงอยู่มากนะครับ เพราะตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ ประกอบมาตรา ๖๖ วรรคสอง (เกินกว่า ๐.๓๗๕ กรัม) มีโทษ ๔ ปี ถึงจำคุกตลอดชีวิต ปรับอีก ๔ แสน ถึง ๕ ล้าน  ไปคิดดูนะครับ

ทนายพร.

348
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: ยาเค
« เมื่อ: มกราคม 04, 2020, 04:35:48 pm »
โทษ เป็นไปตาม "Manotham" ได้อธิบายไว้

ส่วนอายุนั้น ศาลจะลดโทษจากโทษที่ได้กำหนดไว้ใน พรบ.ยาเสพติดให้โทษฯ ๑ ใน ๓ ของโทษเต็ม แต่ต้องนำสืบต่อศาลว่าเรายังอายุไม่เกิน ๒๐ ปีนะครับ ให้เอาบัตรประชาชน / ใบเกิดประกอบการทำคำให้การด้วยนะครับ

ทนายพร.

349
ดีใจด้วยนะครับที่ยังพอมีความหวัง ที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง

ส่วนศาลฏีกาจะตัดสินอย่างไรนั้น ยากนักที่จะมีคนรู้ นอกจากผู้พิพากษาศาลฏีกา

แต่ผู้ที่รู้ดีที่สุดก็คือ ตัวจำเลยนั่นแหละ ว่าได้กระทำผิดจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในคดีอาญา(ยาเสพติด) เป็นหน้าที่ของโจทก์หรือพนักงานอัยการที่จะต้องแสวงหาพยานหลักฐานมาเพื่อพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดจริงโดยปราศจากข้อสงสัย หากสืบไม่ถึงหรือพยานหลักฐานมีน้ำหนักน้อย ไม่เพียงพอ ศาลก็จะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามวิธีพิจารณาคดีอาญา มาตรา ๒๒๗ ครับ

ก็ขอให้โชคดีในชั้นฏีกานะครับ

ทนายพร.

350
คำตอบเป็นไปตาม "มโนธรรม" ได้อธิบายไว้เลยครับ

ทนายพร.

351
โดนรอบสอง ทนายก็คงช่วยได้ยากละครับ

เพราะศาลจะดูพฤติกรรมของผู้กระทำผิด เรียกว่า ทำผิดซ้ำซาก รอบหลังนี้ศาลมักไม่ปราณีแล้วนะครับ

และก็ขอเตือนๆกันไว้เลย ว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หรือถ้าหลงผิด ก็ให้หลงเพียงครั้งเดียวนะครับ ถ้าหลงสองครั้งนี่ เรียกว่าไม่หลาบจำครับ

เอาเป็นว่า ครอบครองยาเสพติด ๐.๑๔๐ กรัม เป็นความผิดตามมาตรา ๖๗ โทษ เป็นไปตามที่ "มโนธรรม" ได้อธิบายไว้เลยครับ

รอบนี้คงไม่เสียค่าปรับอย่างเดียวแล้วนะครับ

ขอแนะนำของทนายก็คือต้องทำใจล่ะครับ ถ้าติดก็คงไม่นานเท่าใหร่ ออกมาแล้วก็ปรับตัวกลับใจเสียใหม่นะครับ  ถ้าโดนรอบสามจะหนักกว่านี้ครับ

ขอให้โชคดีครับ

ทนายพร.

352
คำตอบเป็นไปตามที่ "มโนธรรม" ได้อธิบายไว้เลยครับ

ขอให้โชคดีครับ

ทนายพร

353
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: ยาไอซ์1.3g
« เมื่อ: มกราคม 04, 2020, 04:18:08 pm »
ครอบครองยาเสพติดประเภท ๑ ไว้จำนวน ๑.๓ กรัม ซึ่งเกินกว่า ๓๗๕ มิลลิกรัม หรือ ๐.๓๗๕ กรัม มีความผิดตามมาตรา ๑๕ ประกอบ มาตรา ๖๖ วรรค ๒ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒

ส่วนโทษที่จะได้รับนั้น สูงอยู่ครับ

ขอให้โชคดีครับ

ทนายพร.

354
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: การยึดทรัพย์
« เมื่อ: มกราคม 04, 2020, 03:58:59 pm »
คำถามนี้ น่าจะตอบไปแล้ว จากการตั้งกระทู้ถามก่อนหน้านี้ครับ ไปค้นหาอ่านคำตอบเอาครับ

ถ้าตอบอีก เกรงว่าตำตอบจะไม่ตรงกัน..ฮา ;D

ทนายพร.

355
เอ้า! พอศาลให้โอกาศแล้วก็ไม่กลับตัวกลับใจ ยังไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก รอบนี้ยาวละครับ

เพราะศาลจะตัดสินเพิ่มโทษจากเดิมอีก "กึ่งหนึ่ง" เช่น หากศาลตัดสินจำคุกคดีหลัง ๑ ปี เพิ่มโทษฐานไม่หลาบจำอีกกึ่งหนึ่ง ก็เท่ากับจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ครับ

ส่วนแนวทางที่จะให้เหลือ ๔๕ วันนั้น บอกเลย ไม่มีครับ

เป็นกำลังใจให้กับคนในครอบครัวนะครับ

ทนายพร.

356
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: แฟนโดนจับ
« เมื่อ: มกราคม 04, 2020, 03:51:46 pm »
ยาไอซ์ เป็น สารเสพติดประเภทกระตุ้นประสาทหนึ่งที่มีชื่อทางเคมีว่า “เมทแอมเฟตามีน(Methamphetamine)” มักอยู่ในรูปผลึกใสเหมือนน้ำแข็ง ไม่มีสีหรือสีขาว ไม่มีกลิ่น เป็นสารติดตัวเดียวกับยาบ้า แต่ยาบ้ามีส่วนประกอบของเมทแอมเฟตามีนน้อยกว่าและอยู่ในรูปแบบเม็ด

ซึ่งยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ ผู้ใดครอบครองมีโทษตามกฎหมาย

ส่วนมีโทษอย่างไรเป็นไปตามคุณ "มโนธรรม" ได้อธิบายไว้เลยครับ

ทนายพร.


357
กรณีเสพแล้วขับรถ หรือที่เรียกว่า "ขับเสพ" มีความผิดต่อกฎหมาย ๒ ฉบับ นั่นก็คือ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ และ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒

โดยความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ. ศ. ๒๕๒๒ ได้กำหนดไว้ในมาตรา ๙๑ และมาตรา ๙๗ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๖ เดือนถึง ๓ ปี หรือ ปรับตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐-๖๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ , ๔๓ ทวิ ประกอบมาตรา ๑๕๗/๑  ต้องระวางโทษสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ อีก ๑ ใน ๓

หมายความว่า หากขับเสพ ศาลก็จะตัดสินโดยยึดถือโทษตาม พรบ.จราจรฯ โดยเพิ่มโทษจากที่กำหนดไว้ใน พรบ.ยาฯไปอีก ๑ ใน ๓ ล่ะครับ

ก็เตือนกันไว้ครับ ขับเสพโทษหนักอยู่นะครับ และส่วนใหญ่ศาลมักจำคุกโดยไม่รอเลยนะครับ เพราะถือว่าอันตรายต่อบุคคลทั่วไป

ขอให้โชคดีครับ

ทนายพร.

358
ทนายสงสัยแค่คำว่า "พนักงานท่านนั้นทำงานไม่ได้ตามที่นายจ้างกำหนดไว้" กำหนดเรื่องอะไร? เป็นธรรมหรือไม่? แค่สงสัยน่ะครับ

เอาละมาที่คำถาม-คำตอบกัน

ถามมาว่า..นายจ้างต้องการเปลี่ยนแปลงสัญญาเป็นสัญญาจ้างแบบมีระยะเวลาได้หรือไม่?

ก็ตอบว่า...ถ้าลูกจ้างยินยอมก็ทำได้ครับ แต่ถ้าลูกจ้างไม่ยินยอมหรือไม่ยอมเซ็นต์ จะไปบังคับให้เซ็นต์ก็ไม่ได้นะครับ เป็นโมฆะ บังคับไม่ได้

และอาจมีความผิดได้ครับ

ทนายพร.

359
คำถามนี้ ท่านมโนธรรม ได้อธิบายไว้ถูกต้องแล้ว แต่ขอสรุปหลักกฎหมายไว้ว่า
กรณีที่มียาบ้าไว้เกินกว่า ๑๕ หน่วยการใช้ หรือเรียกง่ายๆว่า เกินกว่า ๑๕ เม็ด กฎหมายให้สันนิฐานว่า มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีโทษตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ ซึ่งกระบวนการระหว่างนี้ พนักงานสอบสวนก็จะต้องส่งยาของกลางนั้นไปสกัดเป็นสาร "บริสุทธิ" ว่าได้เท่าใหร่ เพื่อนำผลนั้นไปปรับเปรียบเทียบโทษที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย และตัดสินไปตามนั้น

ส่วนการรับสารภาพนั้นก็เป็นเหตุบรรเทาโทษที่ศาลจะใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินครับ อาจปราณีลดโทษให้ หรือรอลงอาญาก็อาจเป็นได้ครับ

ส่วนใหญ่ เท่าที่เคยทำคดีมา ถ้าไม่เกิน ๑๕ เม็ด ทำผิดครั้งแรก ศาลมักรอครับ แต่ก็เป็นความเห็นส่วนตัวของทนายนะครับ ซึ่งผู้พิพากษาอาจไม่เห็นพ้องกับทนายก็เป็นได้

ส่วนประเด็นการฝากขังนั้น ก็เนื่องมาจากพนักงานสอบสวนยังสอบสวนไม่เสร็จ ยังต้องรอการพิสูจน์สารบริสุทธิ หรือสอบปากคำพยานอีกหลายปาก จึงยังไม่ได้นำส่งพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้อง พนักงานสอบสวนก็จะต้องไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอฝากขังไว้ก่อน ซึ่งจะฝากได้กี่ครั้งนั้น ต้องอยู่ที่โทษของคดีนั้นๆว่าร้ายแรงเพียงใด โดยแต่ละครั้งจะฝากได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๗ เช่น ถ้าโทษร้ายแรงฝากขังได้ครั้งละ ๑๒ วัน แต่ไม่เกิน ๘๔ วัน หรือ ๗ ฝาก อย่างนี้เป็นต้น

เมื่อครบกำหนด ๗ ฝากแล้ว อัยการยังไม่ส่งฟ้องต่อศาล ศาลก็จะมีคำสั่งให้ปล่อยตัวจำเลยไป

ทนายพร.

360
ถามมาโดยที่ยังไม่ได้บอกว่า ถูกนายจ้างเลิกจ้างแล้วหรือยัง มีเพียงข้อความที่ว่าให้พิจารณาตัวเองเท่านั้น

แต่เอาละ อย่างไรที่ทนายจะแนะนำคือ หากอยากไปต่อ ต้องไม่ไปเซ็นต์ใบลาออกโดยเด็ดขาด

หรือถ้าบริษัทไม่มีหนังสือเลิกจ้างมาให้เรา แต่มีพฤติกรรมของนายจ้างที่ไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้ ก็ถือว่านายจ้างเลิกจ้างแล้ว
ดังนั้น เมื่อคุณหายป่วยให้กลับไปทำงานตามปกติ แล้วเก็บหลักฐานว่าเรากลับมาทำงานตามปกติ ทำการส่งใบลาพร้อมกับใบรับรองแพทย์ตามขั้นตอน หากหัวหน้างานหรือนายจ้างไม่ให้เราทำงาน ก็ถามไปตรงๆว่าเลิกจ้างเราแล้วใช่มั๊ย และถ้าเป็นไปได้ก็หาพยานไปรับรู้ด้วย หรือถ้าไม่ได้จริงๆก็ควรจะบันทึกเสียงไว้ หรือโทรถามผู้จัดการและบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐานก็ได้

หลังจากนั้น จึงไปใช้สิทธิ์ตามขั้นตอน อาจไปยื่นคำร้องต่อพนักงารตรวจแรงงาน (คร.๗) หรือไปฟ้องต่อศาล ก็เลือกเอาตามสะดวกเลยครับ

ขอให้โชคดีครับ

ทนายพร.

หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 50