ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ข้อความที่เริ่มโดย: Black Jack ที่ สิงหาคม 12, 2021, 10:02:07 am
-
สวัสดี
อยู่อพาร์ทเม้นท์ ข้างห้องเสียงดังรบกวน เช่น เดินลงเท้าหนัก เปิดหนังหรือเพลงเสียงดัง ส่งเสียงกุกกักหรือทุบบริเวณกำแพงห้อง อาจเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ติดกับกำแพง และปิดประตูห้องน้ำที่อยู่ในห้องเสียงดัง โดยที่ไม่สนกาลเทศะ หลังสี่ทุ่ม ห้าทุ่ม เที่ยงคืน ก็ยังทำแบบนี้ เป็นแบบนี้มาเข้าเดือนที่ 3 แล้ว เบื้องต้นได้ทำการ line บอกเจ้าของอพาร์ตเมนต์ ดังนี้ ครั้งที่ 1 เรื่องทุบกำแพงห้อง ผลที่ได้ก็เงียบไป ครั้งที่ 2 เรื่องเปิดหนังเสียงดังยามวิกาล ผลที่ได้ก็เงียบไป ปัจจุบันเข้าเดือนที่ 3 ที่มาอยู่ เสียงหนังหายไป เสียงทุบกลับมา พร้อมเสียง active ที่มากชนิดกว่าเดิมดังที่กล่าวไปข้างต้น จึงเป็นครั้งที่ 3 ได้ให้เจ้าของอพาร์ตเมนต์ตักเตือนพร้อมบอกไปว่าจะแจ้งความถ้าไม่ยอมหยุดเสียงรบกวน เจ้าของอพาร์ตเมนต์ตอบกับมาว่า ถ้าคราวหน้ามีเสียงดังอีกก็ line ไปคุยด้วยตัวเองเลย พร้อมส่ง line ของห้องข้างๆมาให้ พร้อมบอกว่าเขาหน้าจะทำไปโดยไม่รู้มากกว่า ซึ่งเวลาที่เขาทำจะเน้นหนักตอนก่อน 8 โมงเช้า และหลังสี่ทุ่ม (เหมือนเขาจะนอนกลางวัน ตื่นกลางคืน และอยู่ห้องแทบทั้งวันทุกวัน หน้าจะอยู่กัน 2 คนชายหญิง) เพราะได้ยินเสียงคนคุยกันเบาๆแทบทั้งคืนก่อนจะหลับ บางทีตื่นมากินน้ำก็ยังได้ยิน ข้อความในวงเล็บ เป็นการคาดเดา แต่รู้สึกเหมือนจงใจจะแกล้งรบกวนเพราะเราตื่นกลางวัน อพาร์ทเม้นท์นี้ไม่น่ามีนักศึกษายกเว้นข้าพเจ้าที่เรียนรามฯ
เบื้องต้นคิดว่าจะลองทำตามที่เจ้าของอพาร์ตเมนต์แนะนำคือ ลอง line ไปคุยถ้ามีเสียงดัง จะได้มีหลักฐานการคุยเหมือนที่บอกผ่านเจ้าของอพาร์ตเมนต์ไป ถ้าเขาไม่อ่าน line ก็คงต้องไปเคาะประตูคุย พร้อมบันทึกเสียงสนทนา ถ้ายังไม่มีอะไรดีขึ้นก็จะแจ้งความ
อยากทราบว่า
1.ต้องมีขั้นตอนเดินเรื่องทางกฏหมายให้ถึงที่สุดอย่างไรบ้าง
2.ต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง
3.มีข้อเสนอแนะอย่างไรบ้าง
เท่าที่หาข้อมูลมากฏหมายที่ฟ้องได้ คือ พรบ.สาธารณสุข หมวด 5 มาตรา 25-28 อาญา มาตรา 370 397 แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 421 432 มีข้อเสนอแนะอย่างไร
ขอกล่าวขอบพระคุณ สวัสดี
-
เสียงรบกวน
1.ต้องมีขั้นตอนเดินเรื่องทางกฏหมายให้ถึงที่สุดอย่างไรบ้าง
ตอบ...ก็ใช้การเจรจาพูดจาขอร้องกัน หรือไลน์ไปบอกเขา แต่ก็พึงระมัดระวัง เพราะการไม่รู้นิสัยใจคอกัน การไปพูดคุย หรือไลน์คุยกัน อาจจะมีปัญหาอื่นๆตามมาได้
2.ต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง
ตอบ..เรื่องแบบนี้ ก็คงไม่ต้องไปใช้หลักฐานอะไรมากมาย เพียงระบุวันเวลาที่มีเสียงรบกวน
3.มีข้อเสนอแนะอย่างไรบ้าง
ตอบ...เรื่องที่คุณประสบอยู่ แม้จะเป็นเรื่องหนักหนาพอสมควร เพราะการพักผ่อนอาจไม่เพียงพอ หงุดหงิดรำคาญใจ แต่ในทางกฎหมาย ถือเป็นการละเมิด ( ม.420 ม.421 ม.432 )ตามที่คุณยกมา ซึ่ีงเป็นความรับผิดทางแพ่ง ในทางกฎหมายถือเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าไปแจ้งความ ตำรวจก็คงให้เจรจาไกล่เกลี่ยกัน ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับวันเวลาที่ต้องเสียไป ถ้าไปเจอคนมีสามัญสำนึก รู้ชั่วดี เพียงเขาขอร้อง ก็หยุดการกระทำแล้ว แต่ถ้าเป็นประเภท นักเลงหัวไม้ ใจคออำมหิต อาจจะปองร้ายเราได้... เราจำเป็นต้องอยู่ร่วมโลกกับคนดี คนชั่ว คนบ้า คนโหด คนไม่รู้ภาษา(ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร)ฯลฯ ก็ต้องใช้เทคนิคเอาตัวรอดไปวันๆ เรื่องแบบนี้ ก็เข้าใจดีว่าคุณเดือดร้อน แต่กฎหมายก็คงเยียวยาไม่ได้เท่าที่ควร ด้วยความปรารถนาดี ครับ
-
สวัสดี
แล้วสมมติว่าถ้าเราตัดตัวแปรเรื่อง เสียเวลา เสียเงิน เสียชีวิต หรืออื่นๆ แล้วพูดถึงเรื่องการดำเนินคดีตามกฏหมายให้หนักที่สุดหละ
1.ต้องทำยังไง มีขั้นมีตอนยังไงบ้าง
2.ทำให้เป็นอาญาไม่ได้หรือ หรือถ้าเรามีคลิปเสียงก็ทำอะไรไม่ได้หรือ หรือต้องใช้หลักฐานอื่นๆอีก
3.แล้วถ้ากฏหมายพึ่งไม่ได้จริงๆ เราลงบันทึกประจำวัน และร้องทุกข์เอาไว้แล้วให้ตำรวจมาเตือน ถ้าไม่หยุดไม่แจ้งซ้ำอีกจะมีความแตกต่างจากครั้งแรกหรือไม่ หรือจะวน loop ซ้ำซากไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วเราเลือกแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ด้วยวิธีที่ผิดกฏหมาย ไร้คุณธรรม เช่น ทำเสียงรบกวนคืนไป หรือทะเลาะวิวาท หรืออื่นๆ แต่ไม่รุนแรงมาก หลังจากนั้นฝ่ายเขาสามารถเอาผิดเราทางกฏหมายได้ไหม เช่น ข้อหาทำร้ายร่างกาย และอื่นๆ เพราะเราลงบันทึกประจำวันไว้แล้วแปลว่าเรามีหลักฐานว่าเราไม่ได้เริ่มเรื่อง และได้พยายามหาคนช่วยแล้ว แต่ไม่สำเร็จ
ปล.เป็นแค่การสมมติโดยตัดตัวแปรบางตัวทิ้ง ในชีวิตจริงต้องเลือกทำในสิ่งที่คุ้มที่จะเสียอยู่แล้ว แต่อยากรู้แนวทางทุกทาง ข้าพเจ้าเรียนโรงเรียนวัดสอบได้นักธรรมโทตอนอายุ 14 รู้ดีว่าคนส่วนใหญ่เป็นยังไง โดยเฉพาะประเทศไทยที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องปลูกฝังจิตสำนึกสาธารณะ แต่ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ควรปล่อยให้คนไม่ดีได้ใจนะ คนดีจะโดนคนชั่วเอาเปรียบและจะกลายเป็นคนชั่วไปเอาเปรียบคนอื่น เพราะไม่งั้นคนอื่นจะเอาเปรียบเราแทน สังคมที่น่าอยู่ไม่ควรเป็นเช่นนั้น ต่อให้เศรษฐกิจจะดีแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่น่าอยู่อยู่ดี เราต้องพึ่งประชาชนด้วยกันเอง เพราะกฏหมาย...
ขอกล่าวขอบพระคุณ
-
กฎหมายและสังคม
1.ต้องทำยังไง มีขั้นมีตอนยังไงบ้าง
ตอบ....แจ้งเตือนแล้ว ไม่ได้ผล ก้ต้องแจ้งท้องถิ่น (เทศบาล) ให้เจ้าหน้าที่ช่วยตักเตือน
2.ทำให้เป็นอาญาไม่ได้หรือ หรือถ้าเรามีคลิปเสียงก็ทำอะไรไม่ได้หรือ หรือต้องใช้หลักฐานอื่นๆอีกฃ
ตอบ....ความผิดอาญา ก็พอมี คือ ปอ. ม.370 "ผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตึอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท" ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ คือโทษเล็กๆน้อยๆ ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า เสียงนั้นเดือดร้อนเกินควร ถ้ามีความเดือดร้อนจริง ตำรวจอาจจะเปรียบเทียบปรับ 2-3 ร้อยบาท หรือ 500 บาท.... หรือจะใช้วิธีฟ้องทางแพ้่งฐายนละเมิด ให้ยุติการกระทำ และเรียกค่าสินไหมฯ แต่ต้องฟ้องร้องเอง หรือจ้างทนายความดำเนินการให้ จึงบอกแต่แรกว่า มันคงไม่คุ้ม...
3.แล้วถ้ากฏหมายพึ่งไม่ได้จริงๆ เราลงบันทึกประจำวัน และร้องทุกข์เอาไว้แล้วให้ตำรวจมาเตือน ถ้าไม่หยุดไม่แจ้งซ้ำอีกจะมีความแตกต่างจากครั้งแรกหรือไม่ หรือจะวน loop ซ้ำซากไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วเราเลือกแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ด้วยวิธีที่ผิดกฏหมาย ไร้คุณธรรม เช่น ทำเสียงรบกวนคืนไป หรือทะเลาะวิวาท หรืออื่นๆ แต่ไม่รุนแรงมาก หลังจากนั้นฝ่ายเขาสามารถเอาผิดเราทางกฏหมายได้ไหม เช่น ข้อหาทำร้ายร่างกาย และอื่นๆ เพราะเราลงบันทึกประจำวันไว้แล้วแปลว่าเรามีหลักฐานว่าเราไม่ได้เริ่มเรื่อง และได้พยายามหาคนช่วยแล้ว แต่ไม่สำเร็จ
ตอบ...ถ้าเราไปก่อเหตุ ดังที่บอก ก็คงถูกดำเนินคดีตามกรรมที่กระทำลงไป เช่นทำร้ายร่างกาย หรือพยายามฆ่า บุกรุก เป็นต้น การแจ้งตำรวจไว้ คงไม่สามารถช่วยคุ้มภัยได้ว่า จะไม่ถูกดำเนินคดี ถ้ามีการกระทำความผิด....ท่านศึกษาธรรมะมาจนแตกฉาน ย่อมเข้าใจดีว่า โลกนี้ มันโหด อำมหิต...มีคำพูดของผู้สันทัดกรณีว่าไว้ "ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน " กระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม" สรุปคือคนดี ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ส่วนคนชั่วเดินกร่างเต็มถนน ไม่มีใครกล้าตอแย เพราะคนเหล่านี้ ทราบขั้นตอนของกฎหมายดี คือถ้ากระทำความผิด มีหมายเรียกไปพบตำรวจ
ก็ขอประกันตัว เลื่อนไปเลื่อนมา กว่าจะถึงศาลอาจข้ามเดือนข้ามปี ถ้าสารภาพ ก็ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง ถ้าจำคุกไม่เกิน 5 ปี กฎหมายก็เปิดช่องให้มีการรอการลงโทษ (รออาญา) ออกมาเดินกร่างเต็มถนน และด่าแช่งผู้คนได้ตามอำเภอใจ ดังที่เห็นๆ เราสาธุชน ก็ต้องหลบๆเลี่ยงๆไปวันๆ...เอวัง
-
สวัสดีชาวโลก.. ;D ;D
ปัญหาประเภทนี้ เป็นปัญหาโลกแตก ดังเช่น ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน
และปัญหาเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ ก็มีเยอะแยะในสังคมนี้ ไม่ว่าจะเสียงดัง จอดรถขวาง ไม่ชอบขี้หน้า ปลูกต้นไผ่ติดรั้ว รุกร้ำที่ดินเพียงฝ่ามือ กิ่งมะม่วงล้ำที่ ฯลฯ ซึ่งปัญหาพวกนี้แก้อยากอยู่ครับ ยิ่งถ้าเคมีไม่ตรงกันแล้วยิ่งไปกันใหญ่ แต่ถ้าทุกฝ่ายคุยกันและหาทางออกร่วมกันเรื่องที่ว่าใหญ่ก็เล็กลงทันตาเลยครับ
ซึ่งจริงๆแล้ว หากไม่ยึดติด ยิ่งผู้ถามมีองค์ความรู้สอบได้นักธรรมโท ตอนอายุ ๑๔ แล้ว อาจต้องใช้ธรรมมะเข้าข่ม หรือคิดเสียว่า เป็นบททดสอบจากชั้นฟ้าเพื่อมาทดลองเราว่าจะก้าวข้ามความทุกข์ทรมานที่ประสพอยู่นี้ได้หรือไม่
หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ทำตามข้อแนะนำที่ "มโนธรรม" ได้ตอบไว้ในทุกข้อคำถามนั้นแหละครับ ถูกต้องแล้ว ซึ่งหากให้ทนายแนะนำก็คงไม่แตกต่างกัน
เอาเป็นว่าหากยังเสียงดัง ก็ให้บันทึกเสียงไว้ แล้วเอาไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจให้ดำเนินดคี ถึงแม้ว่าโทษไม่มากแต่ก็ทำไปเพื่อความถูกต้อง อาจจะเสียเวลา เสียเงินบ้าง ซึ่งหากเจ้าพนักงานตำรวจรับเรื่องแล้วไม่ดำเนินการก็อาจจะต้องเอาผิดกับตำรวจผู้นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ล่ะครับ
วันใหนเสียงดัง อัดเสียงไว้ แล้วไปแจ้งความ
เสียงดังอีก อัดเสียงไว้ แล้วไปแจ้งความ
ดังอีก ก็เอาอีก จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถอดใจ ย้ายออกไป เรื่องก็น่าจะจบ
เข้าใจในความลำบากและความอึดอัดที่ประสพอยู่นะครับ
ให้กำลังใจครับ
ทนายพร.
-
ข้างบ้านเสียงดังมาก ขอบคุณข้อมูลเช่นกันคับ >:(