286
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: เกี่ยวกับคดียาเสพติด(ยาไอซ์)
« เมื่อ: เมษายน 16, 2020, 02:12:16 pm »
ถ้าจะให้ทนายตอบชัวร์ๆ ว่าติดกี่ปี ทนายคงตอบไม่ได้หรอกครับ เพราะทนายไม่ใช่ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน
ซึ่งผู้ที่จะตอบได้คือผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีนั้นๆครับ โดยศาลก็จะพิจารณา "พฤติการณ์" แห่งคดี ประกอบกับคุณงามความดีที่ผ่านมาว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยเคยทำดีอะไรให้กับสังคมบ้าง เป็นคนดีมั๊ย มีทำผิดมาก่อนหรือไม่ อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้น โทษที่จะลงแก่จำเลยก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาลตามความหนักเบาแห่งข้อหาล่ะครับ
ข้อเท็จจริงที่ที่เล่ามีว่า ถูกอัยการฟ้องข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย (ยาไอซ์) ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท ๑ ตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษ โดยรับว่าครอบครองจริงแต่ไม่ได้จำหน่าย ซึ่งในข้อนี้ เป็นข้อสันนิฐานของกฎหมายว่า หากครอบครองปริมาณเยอะ ให้ถือว่า ครอบครองเพื่อจำหน่ายด้วย ถึงแม้ว่าขณะจับกุมจะไม่ได้เบอร์แบงค์หรือไม่ได้ล่อซื้อก็ตาม เนื่องจากปกติหากครอบครอบเพื่อเสพเองคงจะไม่มียามากขนาดนี้ ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะปฎิเสธว่าไม่ได้จำหน่ายในทางกฎหมายก็ถือว่าผิดในฐานจำหน่ายครับ
เช่นเดียวกับเราไปกินเหล้ามาแล้าตำรวจให้เป่าแอลกอฮอล์ แต่เพราไม่เป่า ปฎิเสธ เช่นนี้ กฎหมายก็ถือว่า เรามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือเมาแล้วขับนั่นแหละครับ
แล้วเล่าต่อว่า ตอนนี้ประกันตัวออกมา ถ้าศาลตัดสินจะต้องกลับไปติดคุกอีกป่าว? ก็ตอบว่า ถ้าศาลตัดสินจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ก็ต้องติดคุกจริงล่ะครับงานนี้
ยิ่งข้อเท็จจริงมีว่า เคยโดนคดีเสพเมื่อ ๑ ปี ที่แล้ว ยิ่งแสดงให้เห็นว่า แฟนเรายังไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ ยังตัดไม่ขาด ทำผิดซ้ำซาก อย่างนี้ ศาลมักจะไม่ปราณีครับ ส่วนจะโดนเท่าใหร่อยู่ที่ดุลพินิจศาลและปริมาณยาไอซ์ที่แยกสารบริษัทธิ์แล้วครับ
ขอให้โชคดีครับ
ทนายพร.
ซึ่งผู้ที่จะตอบได้คือผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีนั้นๆครับ โดยศาลก็จะพิจารณา "พฤติการณ์" แห่งคดี ประกอบกับคุณงามความดีที่ผ่านมาว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยเคยทำดีอะไรให้กับสังคมบ้าง เป็นคนดีมั๊ย มีทำผิดมาก่อนหรือไม่ อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้น โทษที่จะลงแก่จำเลยก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาลตามความหนักเบาแห่งข้อหาล่ะครับ
ข้อเท็จจริงที่ที่เล่ามีว่า ถูกอัยการฟ้องข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย (ยาไอซ์) ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท ๑ ตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษ โดยรับว่าครอบครองจริงแต่ไม่ได้จำหน่าย ซึ่งในข้อนี้ เป็นข้อสันนิฐานของกฎหมายว่า หากครอบครองปริมาณเยอะ ให้ถือว่า ครอบครองเพื่อจำหน่ายด้วย ถึงแม้ว่าขณะจับกุมจะไม่ได้เบอร์แบงค์หรือไม่ได้ล่อซื้อก็ตาม เนื่องจากปกติหากครอบครอบเพื่อเสพเองคงจะไม่มียามากขนาดนี้ ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะปฎิเสธว่าไม่ได้จำหน่ายในทางกฎหมายก็ถือว่าผิดในฐานจำหน่ายครับ
เช่นเดียวกับเราไปกินเหล้ามาแล้าตำรวจให้เป่าแอลกอฮอล์ แต่เพราไม่เป่า ปฎิเสธ เช่นนี้ กฎหมายก็ถือว่า เรามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือเมาแล้วขับนั่นแหละครับ
แล้วเล่าต่อว่า ตอนนี้ประกันตัวออกมา ถ้าศาลตัดสินจะต้องกลับไปติดคุกอีกป่าว? ก็ตอบว่า ถ้าศาลตัดสินจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ก็ต้องติดคุกจริงล่ะครับงานนี้
ยิ่งข้อเท็จจริงมีว่า เคยโดนคดีเสพเมื่อ ๑ ปี ที่แล้ว ยิ่งแสดงให้เห็นว่า แฟนเรายังไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ ยังตัดไม่ขาด ทำผิดซ้ำซาก อย่างนี้ ศาลมักจะไม่ปราณีครับ ส่วนจะโดนเท่าใหร่อยู่ที่ดุลพินิจศาลและปริมาณยาไอซ์ที่แยกสารบริษัทธิ์แล้วครับ
ขอให้โชคดีครับ
ทนายพร.