ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย => ข้อความที่เริ่มโดย: tongkunk ที่ พฤษภาคม 26, 2020, 09:47:02 am
-
สวัสดีครับผมมารบกวนอีกแล้ว
จากเรื่องล่าสุดที่ผมหมดสัญญาจ้างแล้วมีข้อพิพาท ลงเอยด้วยทำงานแบบไม่รู้จะได้เงินเดือนหรือไม่เพราะยังไม่มีคำสั่งยุติการจ้าง
ผมเลยทำหนังสือว่าผมมาทำงาน โดนยังไม่มีข้อสรุปจากทางมหาวิทยาลัย ส่งหาอธิการครับ
ล่าสุดในวันเดียวกัน หัวหน้างานผม แจ้งโดยปากเปล่า ว่าไม่ต้องมาทำงานแล้วเพราะคิดว่าน่าจะยุติการจ้าง หลังผมทำงานขณะหมดสัญญาจ้างไปแล้ว 8 วัน จากนั้นผมก็หางานอื่นทำครับ และได้รับหนังสือยุติการจ้างโดย ลงวันที่ 8 พ.ค.2563 มีผล วันที่ 30 เม.ย.2563 กว่าลงรับทราบผ่านคณะบดีอะไรต่างๆก็หลายวันครับ
และได้เอกสารมาช่วงวันที่ 20พ.ค.2563 ครับ
ตอนแรกผมก็คิดว่าช่างมันครับ ก็ทำงานฟรีไป ไม่ฟ้องไม่เรียกร้องอะไร และมูฟออนครับ
ที่นี้ปัญหาก็ตามมาครับ คือเงินเดือนเดือน พ.ค. ที่ตอนแรกไม่รู้ว่าจะได้รึเปล่าดันเข้ามาครับ
เลยไม่รู้เลยว่าเงินก้อนนี้ที่เข้ามาเนี่ย ถือว่าผมได้มาโดยสุจริตรีเปล่า เพราะหลังหมดสัญญาจ้างผมยังมาทำงาน 8 วัน และวันลาผมก็เหลือเกือบ 20 วัน แล้วหนังสือยุติการจ้างยังลงวันที่ ที่มีผลย้อนหลัง(ตามความเข้าใจคือกรณีนี้ผมเสียประโยชน์)
ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรครับ เพราะต้องยอมรับว่าได้เงินก้อนนี้มาช่วง covid-9 ก็ช่วยได้เยอะ เพราะด้วยปัญหาข้อพิพิาท เงินชดเชยว่างงานผมก็ขอไม่ได้ เงินชดเชยจากที่ทำงานก็ไม่มีให้เพราะเป็นหน่วยงานมหาวิทยาลัย งานก็หายาก
ครั้งจะเอาเงินเค้ามาใช้ก็ไม่รู้ว่าเค้าตั้งใจให้ หรือผิดพลาดอะไรรึเปล่า แต่คิดไว้ว่าถ้าเค้าทวงก็คงต้องคืนครับ
ที่นี้ที่อยากปรึกษาคือในมุมมองนักกฎหมายมองว่าอย่างไรครับ
ขอบคุณนะครับ
-
หลักกฎหมายในเรื่องนี้ คือ "หลักสุจริตใจ" ครับ
โดยปกติ เมื่อทำงานย่อมได้รับค่าจ้าง ดังนั้น ให้พิจารณาดูว่า เงินที่โอนเข้ามานั้น หากคำนวนแล้วจะได้เท่ากับค่าจ้างในวันทำงานจำนวน ๘ วัน ตามที่ได้ทำงานไปหรือไม่
หากใช่ ก็ถือว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเงินดังกล่าวนั้น เป็นเงินอะไร
หากไม่มีคำตอบ ก็ถือว่าเงินที่ได้มานั้น เป็น "ลาภมิควรได้" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๐๖ ที่บัญญัติว่า "บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใดเพราะการที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทำเพื่อชำระหนี้ก็ดีหรือได้มาด้วยประการอื่นก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้และเป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นจำต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา..."
ดังนั้น จึงต้องคืนเขาไป ส่วนจะคืนเลยหรือรอให้ทวงถามก่อน ก็อยู่ที่สถานการณ์และสภาพเงินในกระเป๋าเราล่ะครับ ;D ;D
หากตอนนี้ยังติดขัดอยู่ ก็รอให้ทวงก่อนค่อยคืน :) ;D
หากมีเงินเหลือๆ ก็ติดต่อคืนได้เลยครับ ;)
ทนายพร.
-
ชัดเจนเลยครับ ขอบคุณมากนะครับผม