1
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / Re: สอบถามเรื่องรถชน
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2014, 12:16:34 am »
ขอบคุณคุณทนายมากครับที่ช่วยตอบคำถาม
“ผมขับรถยนต์บนถนนสี่เลนส์อยู่ที่เลนส์ซ้ายสุด ตีมากับรถจักรยานยนต์” แสดงว่า รถจักรยานยนต์ขับบนไหล่ทางใช่หรือไม่ครับ? ตอบ จักรยานยนต์ขับอยู่บนไหล่ทางด้านซ้าย ล้ำเข้ามาในเลนส์ที่ผมขับอยู่ระยะห่างจากเส้นขอบอย่างน้อยน่าจะ 20 เซนติเมตรครับ(รถจักรยานยนต์คันอื่นๆที่ขับอยู่ด้วยกันก็ล้ำเข้ามาเหมือนกัน แต่มากน้อยแล้วแต่คัน)
๒. “ลักษณะการชนคือท้ายรถของผม โดยถนนคือการเข้าโค้งด้านขวา ผมได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไรจากกรณีนี้บ้างหรือไม่” ถ้าพิจารณาจากเนื้อเรื่องที่เล่ามานี้ก็เห็นว่ารถคุณโดนชนครับ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีหลักฐานประกอบในการพิจารณาอีกชั้นหนึ่งครับ เช่น รูปถ่ายสถานที่เกิดเหตุ,รูปรถ อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้น จึงจะฟันธงยากอยู่ครับ ต้องพิจารณาจากข้อมูลเพิ่มมากกว่านี้ครับ
อันนี้ผมได้ถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุและรูปรถไว้ครับ แต่ตอนที่เกิดเหตุที่รถจักรยานยนต์ล้มเลยนั้นไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะตกใจและตอนสำรวจอยู่ว่าใช่รถตัวเองหรือไม่ที่เกิดเหตุ จักรยานยนต์ล้มอยู่บริเวณกลางถนนระหว่างเลนส์หนึ่งกับเลนส์สองครับ(ไม่มีรูปถ่าย) อย่างที่บอกว่าทีแรกผมไม่แน่ใจว่าเป็นรถตัวเองหรือไม่ผมจึงไม่ได้จอดรถในตอนที่ชนทันที แต่ขับเลยมาเพื่อจอดเข้าข้างทางครับ ส่วนความเสียหายรถผมคือมีรอยขูดที่แม็กซ์ล้อหลังด้านซ้ายและบังโคนล้อหลังที่เป็นพลาสติกฉีกขาด ความเสียหายรถคู่กรณีไม่ได้มีอะไรชัดเจนว่าส่วนไหนที่เสียหายจากการชนส่วนไหนที่เสียหายอยู่แล้ว เพราะเป็นรถกลางเก่ากลางใหม่และตอนที่ญาติของเขามาเขาก็พูดกับคนที่อยู่ในที่นั้นว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็พึ่งโดนเฉี่ยวไป(แต่เป็นตอนกลางคืนและคู่กรณีหนี)
สุดท้ายผมอยากขอบคุณคุณทนายอีกครั้งครับที่ช่วยเหลือ ทีแรกผมเป็นกังวลมากว่าการรับผิดกับประกันจะมีผลต่อทางคดีในขั้นตอนต่อไป ผมไม่มีความกังวลถ้าหากเขาจะฟ้องร้องทางแพ่งเพราะคิดว่าขั้นตอนคงจะยุ่งยากตำรวจคงจะไม่อยากทำสำนวนฟ้อง และค่าเสียหายที่ศาลจะพิจารณาให้จ่ายก็คงจะไม่ได้เกินความเหมาะสมที่ผมจะจ่ายได้ เพราะการบาดเจ็บของคู่กรณีคือแผลช้ำและถลอกบริเวณแขน หัวเข่า หัวโนช้ำ และบาดแผลเล็กที่หน้าหนึ่งจุด แต่คู่กรณีพยายามยืดเยื้อเหตุการณ์และพูดจาเชิงข่มขู่ครับ ผมมีความกังวลว่าจะมีคดีทางอาญาเป็นประวัติมากกว่าครับ แต่อย่างไรผมก็ไม่ได้หนีหรือปฏิเสธความรับผิดเลยนะครับ
“ผมขับรถยนต์บนถนนสี่เลนส์อยู่ที่เลนส์ซ้ายสุด ตีมากับรถจักรยานยนต์” แสดงว่า รถจักรยานยนต์ขับบนไหล่ทางใช่หรือไม่ครับ? ตอบ จักรยานยนต์ขับอยู่บนไหล่ทางด้านซ้าย ล้ำเข้ามาในเลนส์ที่ผมขับอยู่ระยะห่างจากเส้นขอบอย่างน้อยน่าจะ 20 เซนติเมตรครับ(รถจักรยานยนต์คันอื่นๆที่ขับอยู่ด้วยกันก็ล้ำเข้ามาเหมือนกัน แต่มากน้อยแล้วแต่คัน)
๒. “ลักษณะการชนคือท้ายรถของผม โดยถนนคือการเข้าโค้งด้านขวา ผมได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไรจากกรณีนี้บ้างหรือไม่” ถ้าพิจารณาจากเนื้อเรื่องที่เล่ามานี้ก็เห็นว่ารถคุณโดนชนครับ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีหลักฐานประกอบในการพิจารณาอีกชั้นหนึ่งครับ เช่น รูปถ่ายสถานที่เกิดเหตุ,รูปรถ อย่างนี้เป็นต้น ดังนั้น จึงจะฟันธงยากอยู่ครับ ต้องพิจารณาจากข้อมูลเพิ่มมากกว่านี้ครับ
อันนี้ผมได้ถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุและรูปรถไว้ครับ แต่ตอนที่เกิดเหตุที่รถจักรยานยนต์ล้มเลยนั้นไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะตกใจและตอนสำรวจอยู่ว่าใช่รถตัวเองหรือไม่ที่เกิดเหตุ จักรยานยนต์ล้มอยู่บริเวณกลางถนนระหว่างเลนส์หนึ่งกับเลนส์สองครับ(ไม่มีรูปถ่าย) อย่างที่บอกว่าทีแรกผมไม่แน่ใจว่าเป็นรถตัวเองหรือไม่ผมจึงไม่ได้จอดรถในตอนที่ชนทันที แต่ขับเลยมาเพื่อจอดเข้าข้างทางครับ ส่วนความเสียหายรถผมคือมีรอยขูดที่แม็กซ์ล้อหลังด้านซ้ายและบังโคนล้อหลังที่เป็นพลาสติกฉีกขาด ความเสียหายรถคู่กรณีไม่ได้มีอะไรชัดเจนว่าส่วนไหนที่เสียหายจากการชนส่วนไหนที่เสียหายอยู่แล้ว เพราะเป็นรถกลางเก่ากลางใหม่และตอนที่ญาติของเขามาเขาก็พูดกับคนที่อยู่ในที่นั้นว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อนก็พึ่งโดนเฉี่ยวไป(แต่เป็นตอนกลางคืนและคู่กรณีหนี)
สุดท้ายผมอยากขอบคุณคุณทนายอีกครั้งครับที่ช่วยเหลือ ทีแรกผมเป็นกังวลมากว่าการรับผิดกับประกันจะมีผลต่อทางคดีในขั้นตอนต่อไป ผมไม่มีความกังวลถ้าหากเขาจะฟ้องร้องทางแพ่งเพราะคิดว่าขั้นตอนคงจะยุ่งยากตำรวจคงจะไม่อยากทำสำนวนฟ้อง และค่าเสียหายที่ศาลจะพิจารณาให้จ่ายก็คงจะไม่ได้เกินความเหมาะสมที่ผมจะจ่ายได้ เพราะการบาดเจ็บของคู่กรณีคือแผลช้ำและถลอกบริเวณแขน หัวเข่า หัวโนช้ำ และบาดแผลเล็กที่หน้าหนึ่งจุด แต่คู่กรณีพยายามยืดเยื้อเหตุการณ์และพูดจาเชิงข่มขู่ครับ ผมมีความกังวลว่าจะมีคดีทางอาญาเป็นประวัติมากกว่าครับ แต่อย่างไรผมก็ไม่ได้หนีหรือปฏิเสธความรับผิดเลยนะครับ