1
ถาม-ตอบปัญหากฎหมาย / โดนหักเงินเดือน ผู้ค้ำประกัน โดยยังไม่ได้ฟ้องร้องบังคับคดี
« เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2018, 05:08:04 pm »
เรียน ท่านทนายพรที่เคารพ
ข้าฯ ได้ค้ำประกันเงินกู้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ ดูได้ค้ำประกันในปีพศ. 2560 และในปีพ. ศ. 2561 ผู้กู้ได้มีได้ถูกคำสั่งให้พักราชการแล้วต่อมาผู้กู้นั้นไม่ได้ชำระหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจึงได้มีหนังสือแจ้งมายังผู้ค้ำประกันว่าผู้กู้ไม่ได้ชำระหนี้สองงวดติดต่อกัน และหลังจากนั้น อีก 1 เดือนสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ ได้ได้มีหนังสือแจ้งให้เข้าไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยใจความหนังสือมีประมาณว่าผู้กู้ได้ขาดสมาชิกภาพของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแล้ว และสหกรณ์ออมทรัพย์ได้หักเงินค่าหุ้น ของผู้กู้ เพื่อมาหักหนี้ ส่วนที่มีอยู่และส่วนที่เหลือ ได้เฉลี่ย ให้แก่ผู้ค้ำประกันรับผิดชอบ ในจำนวน 4 คนที่ค้ำประกันผู้กู้ 1 คนและในข้อความระบุว่าหักเดือนละเท่าไหร่โดยจะหักเงินเดือนของผู้ค้ำประกันเพื่อชำระหนี้แต่ค่ากับพวกบางส่วนมีได้ลงลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด ต่อมา ทางสหกรณ์ ได้มีหนังสือบอกกล่าวล่วงหน้า ก่อน 60 วัน ว่าลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ให้แก่ทางสหกรณ์ และหลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือน ค่ากับพวกก็ได้รับหนังสือจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจโดยได้แจ้งรายละเอียดในการที่จะต้องรับผิดชอบในหนี้ที่ผู้กู้ไม่ได้ชำระหนี้โดยระบุเป็นจำนวนเงินที่เฉลี่ยกันแล้ว 4 คนและระบุว่าจะหักเงินเดือนในเดือนถัดไปเป็นจำนวนตามที่ระบุในหนังสือที่แจ้งมาด้วยโดยที่ยังมิได้มีการฟ้องร้องบังคับคดี กับพวกข้าแต่อย่างใด
จึงอยากสอบถามกับท่านทนายว่า
ประเด็นที่ 1 สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ สามารถที่จะหักเงินเดือนของข้ากับพวกในกรณีที่ผู้กู้ไม่ชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์ได้เลยโดยไม่มีการฟ้องร้องได้หรือไม่
ประเด็นที่ 2 การหักเงินเดือนดังกล่าวโดยค่ากับพวกก็ไม่ได้เซ็นในหนังสือยินยอมให้หักชำระเงินเดือนของพวกข้าพเจ้านั้นเป็นการกระทำละเมิดต่อพวกข้าพเจ้าหรือไม่และการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ประเด็นที่ 3 การที่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจหักเงินข้าพเจ้ากับพวกโดยมีที่มิได้มีการฟ้องร้องบังคับคดีข้าพเจ้ากับพวกสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้างเพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่ข้าพเจ้ากับพวกโดยเร็วที่สุดเนื่องจากข้าพเจ้ากับพวกได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่งในการดำรงชีพตามปกติ
จึงเรียนมายังท่านทนายเพื่อไขข้อกฎหมายดังกล่าวให้ข้าพเจ้ากับผู้ทราบเพื่อจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งมาณโอกาสนี้ด้วย
ข้าฯ ได้ค้ำประกันเงินกู้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ ดูได้ค้ำประกันในปีพศ. 2560 และในปีพ. ศ. 2561 ผู้กู้ได้มีได้ถูกคำสั่งให้พักราชการแล้วต่อมาผู้กู้นั้นไม่ได้ชำระหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจึงได้มีหนังสือแจ้งมายังผู้ค้ำประกันว่าผู้กู้ไม่ได้ชำระหนี้สองงวดติดต่อกัน และหลังจากนั้น อีก 1 เดือนสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ ได้ได้มีหนังสือแจ้งให้เข้าไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยใจความหนังสือมีประมาณว่าผู้กู้ได้ขาดสมาชิกภาพของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแล้ว และสหกรณ์ออมทรัพย์ได้หักเงินค่าหุ้น ของผู้กู้ เพื่อมาหักหนี้ ส่วนที่มีอยู่และส่วนที่เหลือ ได้เฉลี่ย ให้แก่ผู้ค้ำประกันรับผิดชอบ ในจำนวน 4 คนที่ค้ำประกันผู้กู้ 1 คนและในข้อความระบุว่าหักเดือนละเท่าไหร่โดยจะหักเงินเดือนของผู้ค้ำประกันเพื่อชำระหนี้แต่ค่ากับพวกบางส่วนมีได้ลงลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด ต่อมา ทางสหกรณ์ ได้มีหนังสือบอกกล่าวล่วงหน้า ก่อน 60 วัน ว่าลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ให้แก่ทางสหกรณ์ และหลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือน ค่ากับพวกก็ได้รับหนังสือจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจโดยได้แจ้งรายละเอียดในการที่จะต้องรับผิดชอบในหนี้ที่ผู้กู้ไม่ได้ชำระหนี้โดยระบุเป็นจำนวนเงินที่เฉลี่ยกันแล้ว 4 คนและระบุว่าจะหักเงินเดือนในเดือนถัดไปเป็นจำนวนตามที่ระบุในหนังสือที่แจ้งมาด้วยโดยที่ยังมิได้มีการฟ้องร้องบังคับคดี กับพวกข้าแต่อย่างใด
จึงอยากสอบถามกับท่านทนายว่า
ประเด็นที่ 1 สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ สามารถที่จะหักเงินเดือนของข้ากับพวกในกรณีที่ผู้กู้ไม่ชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์ได้เลยโดยไม่มีการฟ้องร้องได้หรือไม่
ประเด็นที่ 2 การหักเงินเดือนดังกล่าวโดยค่ากับพวกก็ไม่ได้เซ็นในหนังสือยินยอมให้หักชำระเงินเดือนของพวกข้าพเจ้านั้นเป็นการกระทำละเมิดต่อพวกข้าพเจ้าหรือไม่และการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ประเด็นที่ 3 การที่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจหักเงินข้าพเจ้ากับพวกโดยมีที่มิได้มีการฟ้องร้องบังคับคดีข้าพเจ้ากับพวกสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้างเพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่ข้าพเจ้ากับพวกโดยเร็วที่สุดเนื่องจากข้าพเจ้ากับพวกได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่งในการดำรงชีพตามปกติ
จึงเรียนมายังท่านทนายเพื่อไขข้อกฎหมายดังกล่าวให้ข้าพเจ้ากับผู้ทราบเพื่อจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งมาณโอกาสนี้ด้วย