หนุเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง มา 1 ปี 7 เดือน เริ่มทำงานมาตั้งแต่ 7 มิ.ย 60 เมื่อวันที่ 15 ธ.ค 61 นายจ้างได้มาแจ้งให้ทราบว่าจะให้หนูออกจากงานกรณีมาสาย แจ้งว่าจะให้ทำถึง 25 ธ.ค 61 นี้หรือ ออกสิ้นเดือนก็ได้ หนูรับผิดเรื่องมาสายค่ะเพราะบ้านกับที่ทำงานระยะทางไกลกันพอสมควร แต่ในกรณีมาสาย มีกฎ(ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร)เป็นคำพูดออกมาจากนายจ้างเองว่า “หากสายเท่าไหร่ ให้ทดเวลาไปเท่านั้นตามเศษนาที” ทุกคนในที่ทำงานทราบ ใครสายก็ทำทดเวลาไป ที่ทำงาน เวลาเข้างานคือ 09:00 โมงเช้า สายสุดให้ถึง 10 โมง สายมากกว่านั้นจะมีการหักเงิน ถ้าไม่ทำโอเลิก 18:00 แต่ถ้าทำโอเลิก 19:00  ส่วนใหญ่หนูสายประมาณครึ่ง ช.ม ถ้ารถติดหนักๆหรืออาจสาย 5 ถึง 10 นาทีแล้วแต่วัน ถ้าเข้าสายให้โทรแจ้งหัวหน้างานให้เรียบร้อย ซึ่งหนูทำทุกครั้ง สายเท่าไหร่ ทดเวลาตามเศษนาทีทุกครั้ง จนหนูมาอ่านสิทธิ์ของลูกจ้างเมื่อถูกเลิกจ้างหรือไล่ออก ดูสิทธิ์เงินชดเชยที่ควรได้รับ สิ่งที่หนูทราบคือ ถ้าถูกไล่ออก จะไม่ได้รับเงินชดเชยใดๆ หนูถูกไล่ออกจริง แต่การที่อยู่ๆมาไล่ออกเรื่องมาสาย แต่คุณมีกฏออกมาเรื่องสายเท่าไหร่ทดเวลาไปเท่านั้น ซึ่งมันดูขัดๆ ซึ่งถ้าจะเอาออกเรื่องมาสายจริง คุณก็ไม่ควรมีกฏนี้ออกมาด้วยซ้ำ หรือถ้าจะไล่ออกจริง ควรเรียกมาเตือนด้วยวาจา หลังจากนั้นคือ ออกใบเตือนให้ลูกจ้างซะ แต่สำหรับหนู ไม่มีใบเตือนค่ะ มีแต่เรียกมาคุยให้เข้าเร็วหน่อยน้า แค่นั้น มันควรจะเป็นขั้นเป็นตอน ทักไปสอบถามเขาผ่านไลน์ ก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ เลี่ยงประเด็นเงินชดเชยตลอด หนูขอใบเลิกจ้างไป ก็บอกให้ไม่ได้ ทั้งที่เขาออกใบรับรองงานมาให้หนูก่อนหน้านี้แล้ว หนูขอเขาเพราะจะเอาไปสมัครงาน แต่พอขอใบเลิกจ้างคือไม่ออกให้ ตรงนี้หนูคิดว่าไม่โอเค ในการถูกไล่ออกหนูไม่ได้ทุจริต ไม่ได้ทำให้บริษัทเสียหาย เงินชดเชยบอกจะให้แค่เดือนเดียว คือหนูทำงานมา 1 ปี กว่า มันต้องได้ 90 วัน (3 เดือนนะคะ) ก่อนจะถึงสิ้นสุดสัญญาจ้างการทำงานของหนู ทางหัวหน้างานได้แจ้งวันหยุดลาพักร้อนมาให้หนู 5 วัน บอกเรามีสิทธิ์หยุดได้ 5 วัน หนูเลยเลือกหยุดตามคำสั่งหัวหน้า 5 วัน ก่อนออกจากงานเพราะคิดว่าเป็นลาพักร้อน หยุดไปเราก็ไม่เสีย หนูเขียนใบลาเรียบร้อย หัวหน้ารับทราบ จนถึงวันสิ้นสุดการทำงานของหนู หนูไปเช็คใบลงเวลา กลับกลายเป็นวันลาพักร้อนถูกเปลี่ยนเป็นลากิจ 5 วันแทน ซึ่งทางหัวหน้าได้ชี้แจงว่า ทางเขาเข้าใจผิดคิดว่าเรามีวันหยุดพักร้อน 5 วัน แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ เท่ากับว่า ทางหนูเสียประโยชน์ตรงนี้ เงินสูญไปเลย 5 วัน ทางหัวหน้าคุยกับนายจ้าง ในกรณีนี้ กลับกลายเป็นเขาปัดเป็นลากิจแทน พร้อมงัดหลักฐานตรงนี้ไปคุยทางศาลกรณีหนูขาดงานเกิน 3 วันแทน (ใบลงเวลามีการเปลี่ยนแปลงจากที่เขียนเป็นลาพักร้อน ก็เขียนเป็นลากิจแทน ลงลายเซ็นชื่อหนุด้วยลายมือคนอื่น)

วันที่ 23 มกรา 62 ที่ผ่านมา หนูไปที่กรมแรงงานเพื่อไปปรึกษาเรื่องกรณีนายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชยให้กับการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม หนูก็เล่าทุกอย่างให้ทางเจ้าหน้าที่ฟัง เจ้าหน้าเลยโทรไปสอบถามทางนายจ้างว่าจะตกลงยังไง สรุปสิ่งที่เขาพูดมาคือ หนูทำผิดเรื่องมาสาย ทางบริษัทได้ทำหนังสือตักเตือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แต่จริงๆคือหนูไม่ได้รับเลยค่ะ) เขาบอกกฏเรื่องการทดเวลาเขาพูดเอง แต่ทางหนูเข้าใจผิด คือ สรุป นอกจากหนูเข้าใจผิด เพื่อนทุกคนที่ทดเวลาก็เข้าใจผิดกันหมดเลยสิคะ ทางนายจ้างบอกเขาจะไม่จ่ายค่าชดเชยให้ บอกเจอกันที่ศาล หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่เลยบอกมีสองทางให้เลือกคือ ให้หนูหาหลักฐานมาให้ได้ว่า เรื่องการทดเวลาคือเรื่องจริง อย่างที่สองคือไปศาลละงัดหลักฐานออกมาให้หมด

หลังจากคุยกับเจ้าหน้าที่ หนูตัดสินใจที่จะไปศาลค่ะ เพื่อเรียกร้องสิทธิของหนู นายจ้างแจ้งมาทางคนของหนูว่า “เขามีสองทางให้เลือกคือ ไปเซ็นยินยอมว่าจะไม่รับเงินชดเชย 3 เดือน แล้วเขาจะไปแจ้งทางประกันสังคมให้ว่า เลิกจ้าง” แค่นั่นค่ะ ให้หนูไปได้เงินประกันสังคมแทน และเมื่อเร็วๆนี้ทางนายจ้างได้ส่งหนังสือให้หนูไปเซ็นใบลาออกให้เรียบร้อยซะ แต่หนูคิดว่า การลาออกคือคือการที่เราสมัครใจลาออกค่ะ แต่ถ้าทางนายจ้างเห็นว่าหนูทำผิดจริง ออกหนังสือไล่ออกพร้อมเงินชดเชยก็คงจบ แต่สำคัญคือ เขาไม่จ่ายค่าชดเชยให้ค่ะ

**หนูเลยอยากสอบถามท่านว่ากรณีของหนู ที่หนูเรียกร้องเงินชดเชยนั้นถูกต้องหรือไม่คะ ?

ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่เขาไล่หนูออก หนูมองว่า ถ้ามาสายบ่อยเหลือเกิน ไล่ออกก็ไม่แปลก แต่การไล่ออกแบบไม่มีใบเตือน บวกกับการออกกฏเรื่องทดเวลา แต่คุณไล่ออกเรื่องมาสายมันขัดต่อหลักความเป็นจริงเรื่องกฏ เรื่องไม่จ่ายค่าชดเชยก็ด้วย ถ้าหนูทุจริตทำให้บริษัทเสียหายนั่นก็อีกเรื่อง

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ