ตอบ – สรุปก็คือ มีโรงงานผลิตแล้วไปตั้งบูทขายของตามที่ต่างๆ โดยคนขายก็ไปจ้างมาเป็นแม่ค้าโดยแบ่งส่วนแบ่งจากการขาย
ต้องทำความเข้าใจเรื่องสัญญาก่อนว่า ในเรื่องแรงงานนั้น มีสัญญาอยู่สองประเภทคือ “จ้างแรงงาน” กับ “จ้างทำของ”
จ้างแรงงาน สาระสำคัญคือ ต้องมี “นายจ้าง” กับ “ลูกจ้าง” และต้องมีการจ่ายค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่ทำงาน โดนไม่ต้องพิจารณาจากผลสำเร็จของงาน และนายจ้างมีอำนาจบังคับบัญชาหรือลงโทษทางวินัยได้หากลูกจ้างกระทำผิดโดยอยู่ภายใต้ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานและกฎหมายแรงงาน
ส่วนสัญญาจ้างทำของ จะมี “ผู้ว่าจ้าง “ และ “ผู้รับจ้าง” ถ้าให้อธิบายแบบชาวบ้านก็คือ คนรับจ้างทั่วไป เช่น เหมารถ , จ้างซ่อมรถ , จ้างทำบ้าน ฯลฯ โดยสัญญาลักษณะนี้จะดูที่ผลสำเร็จของงานเป็นสำคัญ และส่วนใหญ่แล้วจะจ่ายค่าจ้างตอนงานเสร็จ หรือจะจ่ายตามที่ตกลงกัน ที่สำคัญ ผู้ว่าจ้างไม่มีอำนาจบังคับบัญชานั้นเอง และผู้รับจ้างไม่ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน แต่จะอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชครับ
ตอบคำถามเลย
ถ้าไม่ได้จ่ายเป็นค่าจ้างแต่จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ขายได้ ก็จะเป็นสัญญาจ้างทำของครับ แต่ถ้ามี การจ่ายค่าจ้างในจำนวนแน่นอน มีการลงเวลาทำงาน , ลาทุกประเภทต้องขออนุญาต และสามารถลงโทษได้กรณีที่ทำผิด ก็จะกลับกลายเป็นจ้างแรงงานทันทีครับ
ก็ลองไปพิจารณาเอาครับว่ากรณีของผู้ถามเข้าองค์ประกอบตามสัญญาจ้างแรงงานหรือจ้างทำของครับ
ทนายพร