ต้องขออภัยด้วยนะครับที่ตอบช้า เห็นความตั้งใจในการเขียนเล่าเหตุการณ์อย่างยาวก็พอจะเข้าใจได้ว่ามีความอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่ง และกำลังคิดหาทางออกว่าควรจะเดินไปในทิศทางใด และก็ขอให้กำลังใจให้สู้ต่อไปนะครับ
จากคำถาม “อยากทราบว่าทางทนายพร มองเคสนี้เป็นอย่างไร ว่าเป็นกรณีเลือกจ้างที่ไม่เป็นธรรมได้หรือไม่ ”
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า “การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม” หมายความว่าอย่างไร
การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม หมายถึง การที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างโดยที่ลูกจ้างไม่ได้ทำผิดหรือไม่มีเหตุผลสมควร เช่น เลิกจ้างโดยอ้างเหตุขาดทุนแต่ข้อเท็จจริงไม่ได้ขาดทุนจริง , เลิกจ้างโดยอ้างเหตุคัดคนออกโดยไม่มีหลักเกณฑ์ , เลิกจ้างในข้อหาหมั่นไส้ หรือ ไม่สามารถหาเหตุผลมาเลิกจ้าง อย่างนี้ถือว่าเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมครับ
เครสนี้ ทนายมองว่า ก้ำกึ่งครับ ทั้งนี้ต้องดูที่พยานหลักฐานเป็นสำคัญครับ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การทำหนังสือลาออกที่ยังไม่ได้ลงวันที่ มีผลในทางกฎหมายหรือยัง และการที่หัวหน้าแจ้งต่อลูกจ้างว่าไม่ต้องมาทำงานอีกต่อไปแล้ว ถือว่าเป็นการบอกเลิกจ้างตามกฎหมายแล้วหรือยัง ซึ่งทั้งสองประเด็นต่างก็มีข้อโต้แย้งที่ยังหาข้อยุติในชั้นนี้ไม่ได้ คงต้องหาคนกลางมาตัดสิน นั่นก็คือการฟ้องต่อศาล หากเป็นว่าลูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเครสนี้ ก็น่าสนใจ แต่อาจจะไม่ถึงต้องมีคำพิพากษาก็เป็นได้ เนื่องจาก กระบวนการพิจารณาคดีแรงงานนั้น จะใช้ระบบไต่สวนและให้น้ำหนักกับการไกล่เกลี่ยให้คู่ความตกลงกัน ซึ่งหากตกลงกันได้ คดีจบกันไป หากตกลงกันไม่ได้ก็สืบพยานกันต่อไป ซึ่งกรณีของคุณนี้ อาจจะยกเรื่องการรับปากรับคำที่จะให้เงินพิเศษจึงยอมเขียนใบลาออก ดังนั้น ข้อแนะนำก็คือ ควรไปเรียกร้องสิทธิ์ที่ศาลเลยครับ ขอให้โชคดีครับ
ทนายพร