4 ตค 54 - เริ่มงาน เป็นพนักงานรายเดือน นายจ้างเป็นร้าน เวลาทำงานคือ 8.00 - 17.00, จันทร์ - เสาร์
23 พค 56 - จดทะเบียนบริษัท ผู้ถือหุ้น 4 คน คือ 1.เจ้าของเดิม 2.ภรรยาเจ้าของ 3.ลูกชายเจ้าของ 4.ลูกสะใภ้เจ้าของ บริษัทซื้อกิจการร้าน โดยลูกสะใภ้เป็นกรรมการผู้จัดการ มีอำนาจบริหารงานบริษัท
~ มิย 63 - พนักงาน ก. โดนนายจ้างสั่งให้หยุดงานไปก่อน เมื่อมีงานจะเรียกเข้ามาทำ พนักงาน ก. ปรึกษาผมว่าจะทำอย่างไรดี เพราะว่าสั่งให้หยุดงานอย่างนี้ทำให้เขาขาดรายได้ ผมแนะนำให้ไปปรึกษาประกันสังคม พนักงาน ก. โทรไปหาเพื่อนที่ทำงานอยู่ประกันสังคม เพื่อนของพนักงาน ก. แนะนำว่าให้ไปปรึกษาที่สำนักงานสวัสดิการฯ
วันรุ่งขึ้นพนักงาน ก. ไปที่สำนักงานสวัสดิการฯ เจ้าหน้าที่ได้โทรเรียกนายจ้างเข้าไปเนื่องจากมีพนักงานมาร้องเรียน หลังจากนายจ้างกลับมาก็ได้เรียกประชุมพนักงานทั้งหมด โดยแจ้งว่า พนักงาน ก. ไปแจ้งกับสำนักงานสวัสดิการฯว่าถูกเลิกจ้าง แต่ตัวเค้า(นายจ้าง) แค่ให้หยุดงานไม่ได้จะเลิกจ้าง
หลังจากประชุม ผมเอางานไปให้นายจ้างตรวจ จึงได้คุยกันเรื่องพนักงาาน ก. อีก ผมบอกกับนายจ้างว่า ผมเป็นคนแนะนำให้พนักงานคนนั้นไปปรึกษาที่ประกันสังคม นายจ้างถามว่าทำไมไม่แนะนำให้มาคุยกับเค้า คราวหน้าหากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก ให้แนะนำคนที่มาปรึกษาว่าให้มาคุยกับเค้า(นายจ้าง)แทน
จากเหตุการณ์นี้นายจ้างแจ้งด้วยวาจาว่าจะออกใบเตือนผม เรื่องยุยงให้แตกแยก แต่จนวันที่เจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานเรียกเข้าไปพบ ผมก็ยังไม่เคยเห็นใบเตือนฉบับนี้
~ สค 63 - ประชุมพนักงาน เรื่องบริษัทมีปัญหาทางการเงิน เนื่องจากโควิดทำให้ยอดขายน้อย เพื่อให้บริษัทดำเนินการต่อไปได้จึงขอความร่วมมือพนักงาน โดยตั้งแต่เดือน กันยายน 2563 ขอลดเงินเดือนลง 25 % สำหรับผมคือจาก 10,500(วันละ 350) เป็น 7,875 และปรับเวลางานเป็น 9.00 - 16.30, จันทร์ - ศุกร์ และเมื่อถึงปลายปี หากสถานะการดีขึ้น บริษัทจะปรับเงินเดือนกลับตามเดิม ซึ่งตอนนั้นพนักงานทุกคนยอม
~ ธค 63 - ประชุมพนักงาน เรื่องสถานะการณ์ของบริษัทยังไม่ดีขึ้น หลังปีใหม่ยังขอต่อเวลาการลดเงินเดือนออกไปอีก และปรับเวลางานเป็น 8.30-17.00, จันทร์-ศุกร์ หากสถานะการดีขึ้น บริษัทจะปรับเงินเดือนกลับตามเดิม
31 สค 64 - ประชุมพนักงาน ว่าทางบริษัทมีปัญหาทางการเงิน ทำให้ไม่สามาถจ่ายเงินเดือนของเดือนสิงหาคมได้ ขอเลื่อนการจ่ายออกไปก่อน เมื่อบริษัทมีรายรับเข้ามา จะทยอยจ่าย และเดือนกันยายน บริษัทจะปรับการทำงาน เหลือสัปดาห์ละ 2 วัน พนักงานคนหนึ่งได้ถามว่า แล้วจะคิดเงินเดือนอย่างไร กรรมการผู้จัดการ ตอบว่า จ่ายตามวันที่มาทำงาน หากใครตกลงให้เซ็นชื่อยินยอมในหนังสือที่ กรรมการผู้จัดการ เตรียมมา หากไม่ตกลงทางบริษัทจะเลิกจ้าง โดยจะจ่ายเงินชดเชยให้ตามอายุงาน แต่เนื่องจากบริษัทยังไม่มีเงิน ฉะนั้นเงินชดเชยจะทยอยจ่ายเมื่อบริษัทมี ผมขอคิดดูก่อน ส่วนพนักงานที่เหลือเซ็นต์ยอมรับเงื่อนไขการทำงานใหม่
2 กย. 64 - หลังตอกบัตรเลิกงาน กรรมการผู้จัดการ ถามว่าเรื่องทำให้ทำงานสัปดาห์ละ 2 วัน ตกลงอย่างไร ผมตอบว่าผมเลือกให้เลิกจ้าง
24 กย 64 - ได้รับเงินเดือนของเดือน สค.
เดือนกันยายน ผมได้ถูกกำหนดให้มาทำงานวันอังคารและวันพฤหัสบดี ทำงานรวมทั้งหมด 9 วัน ระหว่างนี้เคยถาม กรรมการผู้จัดการ ว่า เงินชดเชยคิดจากเงินเดือนเดิม(10,500) หรือเงินที่ขอลด 25%(7,875)
กรรมการผู้จัดการ แจ้งว่าคิดจากยอดเงินเดือนที่ขอลด
30 กย 64 ทำงานวันสุดท้าย
5 ตค 64 - ได้รับเงินเดือนของเดือนกันยายน(ทำงาน 9 วัน) ยอดเงินจากเว็ปประกันสังคม 3,135 บาท (บริษัทไม่ทำสลิปเงินเดือนให้มานานแล้ว) คิดเป็นวันละ 348.33 บาท
22 พย 64 - ไลน์ถามเรื่องเงินชดเชย ผจก ตอบว่ายังไม่มี ถ้ามีจะทยอยให้
24 พย 64 - ยื่นคำร้องเรื่องเงินชดเชยเลิกจ้างที่สำนักงานสวัสดิการฯ จำนวน 240 วัน x 350 บาท เป็นเงิน 84,000 บาท
7 ธค 64 - เจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานนัดเข้าไปพบ นายจ้างแจ้งว่าจะผ่อนจ่ายเงินชดเชยเป็นงวดๆ ประมาณ 6 หรือ 7 งวด รวมเป็นจำนวน 63,000 บาท(8 เดือน x 7,875) ที่เป็น 7,875 ต่อเดือน แทนที่จะเป็น 10,500 เพราะผมโดนลดเงินเดือนจากใบเตือนเรื่องที่เคยมีพนักงานมาร้องเรียนกับสำนักงานสวัสดิการฯ เพราะพนักงานคนนั้นถามผมว่าได้โบนัสหรือเปล่า แล้วผมบอกว่าได้ แต่พนักงานคนนั้นไม่ได้ โดยนายจ้างแจ้งว่า การบอกว่าได้โบนัสเป็นการเปิดเผยเงินเดือนซึ่งถือเป็นความลับ ห้ามเปิดเผย มีความผิดตามกฏของบริษัท
ผมไม่ยินยอมตามที่นายจ้างว่า ผมขอให้ชดเชยที่ยอดเงินเดือนเดิม ชำระทั้งหมดในครั้งเดียว เนื่องจากผมคิดว่านายจ้างมีเจตนาไม่จ่ายค่าชดเชยตั้งแต่แรกถ้าให้ผ่อนชำระอาจจะจ่ายแค่ครั้งแรกเพียงครั้งเดียว และผมไม่มั่นใจว่าบริษัทจะยังเปิดกิจการนานพอที่จะชำระครบหรือเปล่า
เจ้าหน้าที่ตรวจแรงงาน แจ้งว่าขอตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ก่อน หากต้องการหลักฐานเพิ่มจะติดต่อไปอีกที
หลังจากนายจ้างกลับไปแล้วผมได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าใบเตือนที่นายจ้างเอามาเป็นเหตุผลในการลดเงินเดือนไม่เป็นความจริงและได้เล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับใบเตือนให้ฟัง
สอบถามดังนี้ครับ
1.บริษัทออกใบเตือนแบบนี้ถูกต้องหรือเปล่าครับ และสามารถเอาใบเตือนมาลดเงินเดือนได้หรือเปล่าครับ
2.ยอดเงินชดเชยที่ผมเรียกถูกต้องไหมครับ
3.ผมขอให้จ่ายครั้งเดียว นายจ้างอ้างไม่มีเงินขอผ่อน ถ้าผมไม่ยอมจะเป็นอย่างไรครับ
4.หากตกลงให้นายจ้างผ่อน ต่อมานายจ้างไม่ยอมจ่าย ต้องทำอย่างไรครับ
5.เงินเดือนที่ถูกลด 25% ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำของจังหวัด(320 บาท) ตอนเขียนคำร้องครั้งแรกไม่ได้เรียกร้อง ผมสามารถเรียกร้องส่วนนี้เพิ่มได้ไหมครับ
6.หากพบว่าข้อความในใบเตือนไม่เป็นความจริง นายจ้างมีความผิดไหมครับ