นายจ้างหาทางพยายามเลิกจ้างโดยให้เข้าระบบประเมินผลงานใหม่แล้วให้เกณฑ์ผลงานเราต่ำได้ไหมคะ

[นภา]

ทำงานมาที่นี่มานานมากๆเกินกว่า 10 ปี นายจ้างเรียกมาคุยมาบีบให้เราลาออกจากงานเอง โดยบอกจะจ่ายให้ตามกม. แรงงาน แต่ถ้าเราไม่ยอม เขาขู่บีบบังคับให้เราเข้าไปในระบบต้องทำรายงานว่าในแต่ละวันเราทำงานอะไรบ้างและประเมินผลงานกับนายจ้างที่เขาไม่ชอบเราอยู่แล้วทุกวัน ซึ่งเรารู้อยู่ว่าเขาหาทางบีบเราออกโดยบอกมาด้วยว่าถ้าประเมินแล้วผลงานเราต่ำกว่าเกณฑ์ที่เขาตั้งมา เราจะต้องถูกออกจากงานโดยไม่ได้ค่าชดเชยอะไรเลย ควรทำอย่างไรดีคะ และหากเราไม่เข้าระบบเขาจะบอกว่าเราฝ่าฝืนคำสั่งนายจ้างและไล่ออกโดยไม่จ่ายอะไรเลยได้จริงๆไหม อยากขอเบอร์โทรคุณทนายพรด้วยค่ะ อาจจะต้องปรึกษาในรายละเอียดมากกว่านี้โดยด่วนและน่าจะต้องจ้างทนายในการต่อสู้ทางคดีกับนายจ้างต่อไปค่ะ

[ทนายพร]

เครสนี้เห็นว่าเป็นเครสด่วนและได้ไขข้อข้องใจให้ทางโทรศัพท์แล้วครับ

แต่อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นกรณีศึกษาให้กับผู้อื่นที่สนใจก็ขอตอบในที่นี้อีกครังนะครับ

ถามว่า ถูกบริษัทบีบให้ลาออก แต่ลูกจ้างไม่ยอม จึงหาทางกลั่นแกล้งนั่นนี่โน้น สุดท้ายหาเหตุเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ควรทำอย่างไรดี

ทนายก็ตอบว่า สิ่งที่ผู้ถามเลือกที่จะไม่เซ็นต์ใบลาออก แล้วให้นายจ้างเลิกจ้างนั้น เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว หากคุณอยาก "ไปต่อ" เพราะถ้าลูกจ้างไปเซ็นต์ใบลาออกเองแล้ว จะไปเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆนั้น ก็จะเป็นเรื่องที่ยากเลยล่ะครับ

และสิ่งที่ควรทำในระหว่างนี้ ก็ต้องเตรียมตัวและหาวิธีที่จะหาพยานหลักฐานไว้ เช่น แบบประเมิน ผลการประเมิน หรือเอกสารต่างๆ ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับเรา อาจจะใช้วิธีถ่ายรูปไว้ แต่ห้ามขโมยมานะครับ เดี๋ยวงานจะเข้าอีก และในระหว่างนี้ก็ทำงานไปตามปกติ ทำใจให้สงบไว้ ก็จะเป็นผลดีกับเราในอนาคตครับ

และขอบอกว่า เหตุการณ์กรณีเช่นนี้ มีโทรเข้ามาขอคำปรึกษากับทนายเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทีมบริหาร หรือเราบังเอิญไปทำอะไรไม่ถูกใจหัวหน้า ก็มักจะถูกบีบให้ลาออก เมื่อไม่ลาออก ก็จะขู่ในทำนองนี้ บางท่านก็ต่อสู้อย่างแข็งขัน บางท่านก็เจรจาเพื่อขอเงินค่าชดเชย หรือบางท่านไม่อยากมีปัญหาให้ถึงโรงถึงศาล ก็ลาออกไปหางานใหม่ อะไรประมาณนี้ครับ

อย่างไรก็ตามก็ให้กำลังใจนะครับ และจงเชื่อว่า ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอครับ

ทนายพร.