สอบถามค่ะ
1.แฟนทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่13พฤศจิกายน2560 ทางบริษัทได้ทำการตรวจหาสารเสพติดโดยใช้วิธีปาดเหงื่อ ซึ่งผลปาดเหงื่อออกมาว่าพบสารเสพติดที่ร่างกายของแฟน แฟนตกใจว่ามีมาได้อย่างไร และได้ทำการปาดเหงื่อซ้ำทำทั้งหมด5ครั้งผลทั้ง5ครั้งมีสารเสพติด แต่แฟนไม่เคยยุ่งกับยาเสพติดเลยและได้ยืนยันปฏิเสธไปทางบริษัทก็ไม่เชื่อทางบริษัทพูดว่าเครื่องตรวจได้ผล100%ไม่มีทางผิดพลาด แฟนก้ยังคงปฏิเสธ
2.ทางพนักงานของบริษัทที่มาปาดเหงื่อได้พูดขึ้นว่า เยอะมากสารเต็มตัวไปหมดตรวจตรงไหนก็เจอแล้วเขาได้เอากระเป๋าตังไปตรวจแล้วพูดว่าตรงนี้ยิ่งเยอะเหมือนเอายาบ้ามาใส่ไว้ในนี้เลยแบบนี้ตรวจฉี่ก็ม่วงแฟนเลยบอกว่าตรวจฉี่ก็ตรวจให้ทำอะไรผมทำหมดเพราะผมบริสุทธิ์เขาจึงพาตรวจฉี่ที่โรงงานเมื่อเวลาประมาณ09:00ให้แฟนไปฉี่มาซึ่งแฟนก็ถือฉี่มาวางตรงที่ตรวจและอุปกรณ์ตรวจก็อยู่ตรงหน้าแฟนแล้วพนักงานที่เป็นคนตรวจบอกว่ายังไม่ตรวจขอกลับไปเอาโทรศัพท์ที่รถก่อนแล้วกลับมาเขาก็เริ่มทำการทดสอบโดยแกะซองอุปกรณ์ทดสอบปัสสาวะ(ที่ทดสอบแบบหยด)พอแกะเสร็จแฟนยืนสังเกตตลอดเวลาเห็นว่าเขาใช้มือจับที่ปลายหลอดดูดปัสสาวะจับๆปล่อยๆแล้วเขาก็ดูดเอาปัสสาวะออกมาหยดทำการทดสอบผลปรากฏว่าเป็นสีม่วงแแฟนสังเกตเห็นว่าเขามีอาการสั่นๆแปลกในขณะที่แจ้งผลปัสสาวะแต่ทางแฟนก็ยังคงปฏิเสธว่าไม่เคยเสพยาก็ไม่มีใครเชื่อ
3.ทางบริษัทก็ให้นั่งรอคุยโดยการคุยมีผู้บริหาร1คนซุป1คนชิป1คนHr1คนและผู้ตรวจสารเสพติด1คน โดยการคุยเพื่อให้แฟนยอมรับและให้เซ็นใบลาออกจากโรงงานแต่แฟนก็ยังยืนยันปฏิเสธไม่เคยเสพยาและไม่เคยใกล้กับผู้เสพยาและได้พูดปฏิเสธทุกทางและพยายามบอกว่ากินอะไรมาทำอะไรมาบ้างแต่ไม่มีผู้รับฟังทางโรงงานก็ให้เซ็นใบลาออกแต่แแฟนก็ยังไม่เซ็นและพูดว่ามีวิธีไหนที่จำทำให้ผมบริสุทธิ์บ้างเพราะผมไม่เคยยุ่งแต่ทางโรงงานก็ยังยืนยันว่าผลตรวของเขา100%แล้วหลักฐานมันแน่นหนาขนาดนี้แล้วจะเอาอะไรมาอ้างอีกด้วยความที่แฟนก็ตกใจมากที่ฉี่ก็ม่วงทำให้คิดอะไรไปต่อไม่ถูกอีกทั้งยังรู้สึกกดดันมากที่โรงงานพูดในทุกอย่างให้เซ็นใบลาออกเขาจึงเซ็นใบลาออก
4.เมื่อแฟนมาถึงบ้านซึ่งตัวฉันเองก็ไม่เชื่อว่าจะฉี่ม่วงได้ทำการตรวจฉี่แฟนเองถึง2ครั้งผลออกมาไม่มีสารเสพติดในร่างกายเราจึงได้พากันไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งผลออกจากโรงพยาบาลก็ไม่พบสารเสพติดในร่างกายเราจึงได้นำผลและใบรับรองแพทย์ไปยื่นที่โรงงานHrรับผลใบรับรองไว้และมาพูดกับเราต้องรอผู้บริหารเพราะผู้บริหารกลับไปแล้วและพูดว่าเรากลับบ้านไปตรวจกันเองแถมโรงพยาบาลนี้ไม่มาตฐานเราจึงบอกถ้านี่ไม่โอเคตรวจโรงพยาบาลอื่นได้เขาก็พูดต่อว่าจะรับเรื่องไว้แล้วจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดให้เรากลับไปรอที่บ้านในการคุยกันตรงนี้ดูแล้วเขาไม่เชื่อเราและยังยืนยันว่าเครื่องตรวจเขาผลชัวร์100%เราก็พูดว่าเราก็บริสุทธิ์100%เราเสียหายจะทำยังไงเขาก็พุดว่าต้องรอผู้จัดการอยู่ดีคนตัดสินใจคือผู้จัดการเราจึงกลับบ้าน
5.พอวันที่14พฤษจิกายน2560เราจึงพาแฟนไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนอีก1ที่ผลตรวจก็คงไม่พบสารเสพติด เราจึงอยากยืนยันเลยโทรหาผู้จัดการก็ยังคบได้คำตอบที่ยืนยันว่าเขาเชื่อผลของเครื่องปาดเหงื่อและไม่รับเรื่องผลใบรับรองของเราแบบนี้เราจะทำอย่างไรได้บ้างคะเพราะเราบริสุทธิ์จริงแถมเรายังต้องมาตกงานแล้วช่วงนี้จะหาสมัครงานก็ยากจะปีใหม่แล้วมีพี่ๆในโรงงานหลายคนแนะนำให้เราฟ้องแต่เราติดตรงที่แฟนมันดันไปเซ็นลาออกค่ะแบบนี้เราจะเรียกร้องหรือฟ้องได้ไหมคะ รบกวนตอบให้ด้วยค่ะเดือดร้อนใจมากเลยไม่มีที่พึ่งทางไหนได้แล้วค่ะ ขอบพระคุณมากนะคะ?
?