ต้องขออภัยที่ตอบช้านะครับ แต่เครสนี้ ได้ตอบทางโทรศัพท์จนเป็นที่กระจ่างแล้ว...
อย่างไรก็ตามเพื่อให้แฟนๆเว็บไซด์นี้ได้รับรู้ด้วยก็จะขอตอบให้ได้รับรู้กันโดยทั่วไปครับ
ก่อนอืื่นต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า "ทำงานไม่คุ้มเงินเดือน" หมายถึงอะไร? เอาอะไรมาวัด? และนายจ้างจะขอลดเงินเดือนได้หรือไม่? เพียงใด?
คำตอบคือ การทำงานคุ้มหรือไม่คุ้มก็อยู่ใครเป็นคนประเมิน..อย่างไรก็ตาม เมื่อได้มีการตกลงเรื่องค่าจ้างกันแล้ว อยู่ๆ จะมาลดค่าจ้างนั้นกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่า ลดไม่ได้ เว้นแต่ลูกจ้างจะยินยอม ยกตัวอย่างเช่น ในสถานการณ์บริษัทขาดทุนจวนจะไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ก็ได้มีการประชุมพนักงาน,ผู้บริหาร ร่วมกันหาทางออก ท้ายที่สุด ก็มีมติว่า จะลดค่าจ้างทุกคนๆละ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ และพนักงานทุกคนก็เห็นชอบด้วย อย่างนี้ถือบังคับใช้ได้ แต่การปฎิบัติก็ต้องเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกปฎิบัติ หลักการเป็นอย่างนี้ครับ
และกรณีนี้ นายจ้างก็รู้กฎหมายดีว่า หากคุณไม่ยอมลดเงินเดือนแน่ๆ นายจ้างจึงได้ "กัดฟัน"จ่ายเงินเต็มจำนวนนั่นเอง
ส่วนประเด็นว่า นายจ้างได้เลิกจ้างแล้วหรือยัง? ประเด็นนี้ ถือว่านายจ้างได้แจ้งเลิกจ้างคุณแล้ว (แม้บอกด้วยวาจาก็ถือว่าเป็นการแจ้งแล้ว) ยิ่งมีหลักฐานเป็นคลิปด้วยแล้ว ก็สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ในชั้นศาล หรือในชั้นพนักงานตรวจแรงงานครับ
ก็หลังจากนี้ ก็ไม่ต้องไปทำงาน และมีทางเลือกให้ ๒ ทาง คือ ไปร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน เพื่อบังคับให้นายจ้างจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าชดเชย หรือทางเลือกที่สอง ไปฟ้องศาลแรงงาน เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาให้นายจ้างจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า , ค่าชดเชย และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมครับ
และกรณีของคุณนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีว่า ถึงแม้จะถูกกดดันต่างๆนาๆ แต่ไม่ก้มหัวต่อความอยุติธรรม จึงไม่ยินยอมเซ็นต์ใบอะไรซักอย่าง ซึ่งเมื่อคุณไม่เซ็นต์คุณก็ยังมีสิทธิที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเองต่อไปได้ครับ
แต่ถ้าหากคุณเซ็นต์ใบลาออกเสียแล้ว..ทุกอย่างก็จบครับ..
ให้กำลังใจครับ
ทนายพร