ความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความอยุติธรรม (justice delayed is justice denied) เฉกเช่นคำขวัญศาลแรงงานที่ว่า "ประหยัด สะดวก รวดเร็วและเที่ยงธรรม" ก็ด้วยการตระหนักว่าความยุติธรรมมิใช่เพียงการตัดสินโดยองค์กรตุลาการที่เป็นกลางเท่านั้น หากต้องมิใช่กระบวนการที่ใช้เวลายาวนาน เพราะคำตัดสินที่มาอย่างเชื่องช้าอาจทำให้ผู้ได้รับความเสียหายไม่สนใจต่อการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ทั้งยังทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างคู่ความที่ไม่มีความเท่าเทียมกัน
อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2558
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ขออนุญาตศาลแรงงานก่อน อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 52 เนื่องจากโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้าง คำสั่งเลิกจ้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยให้การว่าการแต่งตั้งโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลแรงงานภาค 1 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลฎีกาเห็นว่า เห็นว่า จำนวนลูกจ้างทั้งหมดของสถานประกอบกิจการที่ใช้เปรียบเทียบกับจำนวนสมาชิกของสหภาพแรงงานตามบทบัญญัติดังกล่าว หมายถึง จำนวนลูกจ้างทั้งหมดของสถานประกอบกิจการนั้นทุกหน่วยงานหรือทุกสาขาที่มีการบริหารงานเช่นเดียวกันรวมกัน
ส่วนที่ประกาศกรมแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งคณะกรรมการลูกจ้าง ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2518 ข้อ 1 กำหนดว่า “ในสถานประกอบกิจการแห่งหนึ่ง ให้เลือกตั้งคณะกรรมการลูกจ้างได้หนึ่งคณะ เว้นแต่สถานประกอบกิจการนั้นมีหน่วยงานหรือสาขาในจังหวัดอื่น ลูกจ้างในสถานประกอบกิจการเช่นว่านั้น อาจตกลงกันเลือกตั้งคณะกรรมการลูกจ้างขึ้นจังหวัดละคณะได้ จำนวนกรรมการลูกจ้างในสถานประกอบกิจการหรือในหน่วยงานหรือสาขาในแต่ละจังหวัดให้กำหนดโดยถือหลักเกณฑ์ตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518” นั้น
หมายความเพียงว่า ในกรณีที่สถานประกอบกิจการมีหน่วยงานหรือสาขา ในจังหวัดอื่น ลูกจ้างอาจตกลงกันเลือกตั้งคณะกรรมการลูกจ้างขึ้นจังหวัดละคณะก็ได้ แต่การนับจำนวนลูกจ้างทั้งหมดของสถานประกอบกิจการนั้น เพื่อเปรียบเทียบกับจำนวนสมาชิกของสหภาพแรงงาน ว่าถึงเกณฑ์ที่สหภาพแรงงานจะแต่งตั้งกรรมการลูกจ้างให้มีจำนวนมากกว่ากรรมการอื่นที่มิได้เป็นสมาชิกของสหภาพแรงงานหนึ่งคนได้หรือไม่ อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 45 คือ ต้องนับจำนวนลูกจ้างทั้งหมดของสถานประกอบกิจการนั้นทุกหน่วยงานหรือทุกสาขารวมกัน ไม่ใช่นับเฉพาะจำนวนลูกจ้างของสาขาที่จะแต่งตั้งคณะกรรมการลูกจ้าง
เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีโรงงานรวม 7 แห่ง โดยโรงงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและสาขาอื่นรวม 7 แห่ง มีผู้บริหารชุดเดียวกันเป็นผู้บังคับบัญชา ข้อบังคับการทำงานก็ใช้ข้อบังคับเดียวกัน การเจรจาต่อรองของคณะกรรมการลูกจ้างก็เพื่อพนักงานทั้งหมด 7 สาขา ดังนั้นการคำนวณนับจำนวนพนักงานจึงต้องนับทั้ง 7 สาขารวมกัน
เมื่อจำเลยมีลูกจ้างทั้งหมด รวม 23,023 คน แต่สหภาพแรงงานมีจำนวนสมาชิกเพียง 2,270 คน จำนวนสมาชิกสหภาพแรงงาน จึงไม่เกิน 1 ใน 5 ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมดรวมกัน การแต่งตั้งคณะกรรมการลูกจ้างเฉพาะส่วนโรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยาของสหภาพแรงงาน ซึ่งมีโจทก์เป็นกรรมการลูกจ้างคนหนึ่งด้วย จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ไม่ใช่กรรมการลูกจ้างโดยชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อโจทก์ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับ การทำงานและคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายของนายจ้างเป็นกรณีร้ายแรง จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากศาลแรงงานก่อน
click อ่านได้ที่นี่...
อ่านข่าวแรงงาน CLICK ที่นี่...
อ่านข่าว click ที่นี่...
อ่านข่าวมติชน click ที่นี่...
อ่านรายชื่อได้ที่นี่...
ผ่อนรถไม่ไหว อยากจะคืนรถทำอย่างไร ทนายพรนารายณ์ ทุยยะค่าย 6 มีค. 67 &nb...
CLICK ที่นี่...
ค้นหากดที่นี่...
CLICK ที่นี่...