ความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความอยุติธรรม (justice delayed is justice denied) เฉกเช่นคำขวัญศาลแรงงานที่ว่า "ประหยัด สะดวก รวดเร็วและเที่ยงธรรม" ก็ด้วยการตระหนักว่าความยุติธรรมมิใช่เพียงการตัดสินโดยองค์กรตุลาการที่เป็นกลางเท่านั้น หากต้องมิใช่กระบวนการที่ใช้เวลายาวนาน เพราะคำตัดสินที่มาอย่างเชื่องช้าอาจทำให้ผู้ได้รับความเสียหายไม่สนใจต่อการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ทั้งยังทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างคู่ความที่ไม่มีความเท่าเทียมกัน
ประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยยังคงถูกสังคมโลกจับจ้องมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ การใช้แรงงานที่ไม่เป็นธรรม
เมื่อ 18 ธ.ค. เดอะ การ์เดียน หนังสือพิมพ์ในสหราชอาณาจักร เผยแพร่รายงานพิเศษเกี่ยวกับบังคับใช้แรงงานเมียนมาอย่างไม่เป็นธรรมที่โรงงานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปยี่ห้อ F&F ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านแม่กุ ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยให้พวกเขาทำงาน 99 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
สินค้าที่ผลิตจากโรงงานดังกล่าว ประกอบด้วย กางเกงยีนส์ เสื้อแจ็กเก็ต และเสื้อผ้าสำหรับผู้ใหญ่ เพื่อส่งไปจำหน่ายในห้างค้าปลีกเครือข่ายของเทสโก้ ในไทยระหว่างปี 2560-2563
คนเมียนมา “หนีร้อนมาพึ่งเย็น” นโยบายจัดการแรงงานต่างชาติของไทยตอบโจทย์ขาดแคลนไหม
การจ่ายค่าแรงต่ำกว่ากฎหมายกำหนด และสภาพการทำงานที่ไม่เอื้ออำนวย กลายเป็นคดีฟ้องร้องในสหราชอาณาจักรอยู่ในขณะนี้ เมื่ออดีตคนงานกว่า 136 คน ที่เคยทำงานที่โรงงานสิ่งทอวีเคการ์เม้นท์ (VKG) ร่วมกันฟ้องร้องยักษ์ใหญ่ค้าปลีกในข้อหาประมาทเลินเล่อและให้ค่าจ้างไม่เป็นธรรม
เมื่อ 20 ธ.ค. พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติได้ลงพื้นที่บ้านแม่กุ จ.ตาก เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายหลังมีรายงานข่าวดังกล่าว โดยเข้าตรวจสอบโรงงานของบริษัท ฮังไทยนิตติ้ง อินดัสเตรียล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานเดิมแต่เปลี่ยนเจ้าของรายใหม่
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางไปพร้อมกับคณะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโรงงาน บริษัท ฮังไทยนิตติ้ง อินดัสเตรียล จำกัด (20 ธ.ค.)
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวต่อสื่อมวลชนว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นความเดือดร้อนของชาวเมียนมาเพราะพวกเขาหนีจากการสู้รบ และมาทำงานในโรงงานประเทศไทยใน อ.แม่สอด ที่มีการผลิตเสื้อผ้าส่งไปยังธุรกิจค้าปลีกของเทสโก้
"คน 136 คนเดือดร้อนจริง ๆ เหตุเกิดตั้งปี 2560 – 2563 ซึ่งจากการที่ไปตรวจสอบ และสอบถามพนักงานที่อยู่มา 5 ปี ได้พบพิรุธ เรื่องเวลา และค่าจ้างที่มีปัญหา ซึ่งต้องแยกสอบสวนแรงงานทั้งหมด 136 คน หากมีความผิดก็จะต้องดำเนินคดีอาญา ส่วนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานว่ากันไปตามกฎหมายแรงงาน" รอง ผบ.ตร. กล่าว
เรื่องนี้มีสาระสำคัญอย่างไร บีบีซีไทยประมวลข้อมูลมา ดังนี้
เดอะ การ์เดียน ค้นพบพิรุธในคดีนี้อย่างไร
เว็บไซต์ เดอะ การ์เดียน รายงานผลการสัมภาษณ์อดีตแรงงานเมียนมาที่เคยทำงานที่โรงงานดังกล่าวจำนวน 21 ราย พบข้อมูลที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
พวกเขาได้รับค่าจ้างราว 3 ปอนด์ต่อวัน หรือราว 127 บาทต่อวัน และต้องทำงานตั้งแต่เวลา 8.00 น.-23.00 น. ในแต่ละเดือนมีวันหยุดเพียงหนึ่งวันเท่านั้น
คนงานส่วนใหญ่มักได้รับค่าจ้างวันละ 4 ปอนด์ (170 บาทต่อวัน) หรือได้รับตามปริมาณงานที่พวกเขาทำเสร็จ แต่ตามกฎหมายของไทยกำหนดค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 7 ปอนด์ (ราว 296 บาท) ต่อการทำงาน 8 ชั่วโมง
มีการทำงานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผลิตสินค้าทันล็อตใหญ่จาก F&F ในขณะที่พบว่า มีบางคนเหนื่อยล้า จนต้องนอนหลับคาจักรเย็บผ้า
พนักงานบางคนประสบอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะทำงาน คนงานหลายคนถูกต่อว่า ตะโกน ข่มขู่โดยผู้จัดการภายในโรงงาน หากพวกเขาไม่ทำงานนอกเวลาเพื่อให้สินค้าเสร็จทันตามคำสั่งซื้อ
ผู้ให้สัมภาษณ์หลายสิบคนเล่าว่า โรงงานเปิดบัญชีธนาคารให้กับพวกเขา แต่ได้ยึดบัตรเอทีเอ็มและรหัสผ่านไว้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้รับค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย แต่ในความเป็นจริงพวกเขาได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินสด
คนงานส่วนใหญ่จำเป็นต้องพึ่งพาโรงงาน VKG ในเรื่องสถานะแรงงานต่างด้าว และเอกสารการเข้าเมืองมักถูกเก็บไว้โดยโรงงานในลักษณะแรงงานขัดหนี้
สภาพความเป็นอยู่ในโรงงาน พวกเขาต้องอาศัยอยู่กันอย่างแออัดบนพื้นคอนกรีต สกปรก หลายคนบอกว่าที่พักไม่มีประตู มีเพียงแค่ผ้าม่านกั้นเท่านั้น
การฟ้องร้องเกิดขึ้นได้อย่างไร
น.ส. จิรารัตน์ มูลศิริ ทนายความคลินิกกฏหมายแรงงานแม่สอด เล่าถึงที่มาของคดีดังกล่าวว่า เรื่องนี้เกิดตั้งแต่ปี 2563 มีแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 136 คน เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือที่คลินิกกฎหมายแรงงานแม่สอด
พวกเขาแจ้งว่า ต้องทำงาน 8 โมง ถึง 5 ทุ่ม บางครั้งถึงเที่ยงคืน ไม่มีวันหยุดตามประเพณี และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และทำงานวันหยุดยังไม่ได้ค่าแรงตามกฎหมายแรงงาน
เธอเล่าอีกว่า พวกเขายังได้รับการจ่ายค่าจ้างล่าช้า ไม่มีสลิปเงินเดือน เวลาเงินเข้าบัญชี ก็ถอนออกมาลำบาก เพราะไม่มีสมุดบัญชีอยู่กับตัว
ทางคลินิกกฎหมายแรงงานมีแผนการช่วยเหลือเพื่อหาแนวทางประนีประนอมโดยให้ลูกจ้างยื่นข้อเรียกร้องตามตาม พรบ.แรงงานสัมพันธ์ แต่นายจ้างรู้ก่อน จึงให้ลูกจ้างทำสัญญาใหม่
ทว่า ลูกจ้างไม่ยอมลงนามสัญญาใหม่ เพราะถ้ากรอกเอกสารลงนามแล้ว จะทำให้อายุงานขาดหายไป และเสียสิทธิ์ค่าชดเชย เมื่อไม่ลงนามนายจ้างก็ไม่ยอมให้ลูกจ้างเข้าโรงงาน ทางคลินิกแรงงานจึงพาลูกจ้างไปที่สำนักงานสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานเพื่อยื่นคำร้อง โดยมีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชย และจ่ายค่าสินจ้างที่มีการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม น.ส. จิรารัตน์ อธิบายเพิ่มเติมว่า กรณีที่เป็นข่าวเชื่อมโยงกับบริษัทแห่งหนึ่งนั้น ไม่ใช่ข่าวจากทางคลินิกแรงงานประเทศ แต่เป็นการทำงานของเครือการช่วยเหลือแรงงานในอังกฤษ
ส่วนเรื่องนี้อยู่ในชั้นศาลแรงงานของไทย โดยศาลแรงงานให้นายจ้างจ่ายค่าจ้าง และค่าชดเชย รวมกว่า 5 ล้านบาท แต่นายจ้างใช้สิทธิอุทธรณ์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานวันที่ 19 ธ.ค. ว่า เรื่องนี้เป็นคดีฟ้องร้องในอังกฤษโดย Leigh Day บริษัทด้านกฎหมายในอังกฤษโดยมีผู้ฟ้องเป็นอดีตแรงงานต่างด้าว ที่ฟ้องร้องเทสโก้ รวมถึงบริษัทเอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเต็ม ที่เป็นเจ้าของเครือข่ายค้าปลีกในไทยดังกล่าวจนถึงปี 2563 ก่อนที่เครือเจริญโภคภัณฑ์จะซื้อกิจการไป
นอกจากนี้ Intertek บริษัทตรวจสอบบัญชีของเทสโก้ยังเป็นหนึ่งในจำเลยอีกด้วย
เว็บไซต์ เดอะ การ์เดียน รายงานว่า ทนายฝ่าย Leigh Day มองว่า เทสโก้เป็นค้าปลีกขนาดใหญ่สร้างผลกำไรมากที่สุดบริษัทในอังกฤษ และลูกความกล่าวหาว่า บริษัทนี้ทำกำไรจากการจัดจ้างคนภายนอก (outsourcing) ที่รับค่าจ้างต่ำกว่าเกณฑ์ ทำงานเกินเวลากำหนด ภายใต้สภาพการทำงานที่ย่ำแย่
ปฏิกิริยาเทสโก และ VKG ต่อเรื่องนี้เป็นอย่างไร
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานถ้อยแถลงของโฆษกของเทสโก้ว่า ข้อกล่าวหาที่ปรากฏในรายงานข่าวเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างมาก หากว่าพบว่าประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เราจะยุติความสัมพันธ์กับกลุ่มซัพพลายเออร์ดังกล่าวทันที
"การกระทำใด ๆ ที่ผิดต่อสิทธิมนุษยชนถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แต่กับสิ่งที่พวกเขากล่าวอ้างมา พวกเราจะดูแลจัดการอย่างดีเพื่อให้มั่นใจว่า พวกเขาได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม และแรงงานเหล่านั้นจะต้องได้รับการเคารพในสิทธิมนุยชนและเสรีภาพ"
โฆษกของเทสโก้ยังเรียกร้องให้ซัพพลายเออร์จ่ายคืนค่าแรงตามที่พวกเขาสมควรจะได้รับ
ด้านบริษัท Intertek กล่าวว่า ยังไม่สามารถให้ความเห็นใด ๆ ในขณะนี้ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมาย
เดอะ การ์เดียน รายงานอ้างคำพูดของผู้บริหารโรงงาน VKG ว่า ก็ยังไม่สามารถให้ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวเช่นกัน แต่ยืนยันว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานของไทย และพร้อมจะต่อสู้คดีในชั้นศาล
กระทรวงแรงงานว่าอย่างไร
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ในฐานะรองโฆษกกรม ชี้แจงผ่านเอกสารเผยแพร่สื่อเมื่อ 23 ธ.ค.ว่า
พนักงานตรวจแรงงาน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานเอกสารจากฝ่ายลูกจ้างนายจ้างแล้ว และได้มีคำสั่ง เมื่อ 30 ธ.ค. 2563 ให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยและค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้กับลูกจ้าง 134 คน รวมเป็นเงิน 5,204,430 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีนับจากวันผิดนัด สำหรับลูกจ้างอีก 2 คน ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นายจ้างยังไม่มีการเลิกจ้าง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย และค่าบอกกล่าวล่วงหน้า
สำหรับประเด็นค่าจ้างที่ลูกจ้างร้องว่านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างตามประกาศอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ และไม่จ่ายค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีนั้น
จากการสอบข้อเท็จจริงและตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พบว่าลูกจ้างได้รับค่าจ้างดังกล่าวจากนายจ้างครบถ้วนตามสิทธิแล้ว พนักงานตรวจแรงงานจึงไม่มีคำสั่งในประเด็นดังกล่าว
ภายหลังจากการออกคำสั่ง ทั้งสองฝ่ายได้ยื่นอุทธรณ์เพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ต่อศาลแรงงานภาค 6 (นครสวรรค์) ซึ่งเมื่อ 15 ก.ย. 2565 ศาลแรงงานภาค 6 ได้พิพากษาคดีดังกล่าว โดยมีคำพิพากษาว่า
คำสั่งพนักงานตรวจแรงงานชอบด้วยกฎหมายแล้ว และแก้ไขในส่วนของอายุงาน ค่าชดเชยของลูกจ้างผู้ร้อง โดยให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างเพิ่มเติมอีก จำนวน 1,615,950 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี หลังจากนั้น เมื่อ 16 ก.ย. 2565
ทั้งสองฝ่ายได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลแรงงานภาค 6 ซึ่งขณะนี้ประเด็นดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
click อ่านได้ที่นี่...
อ่านข่าวแรงงาน CLICK ที่นี่...
อ่านข่าว click ที่นี่...
อ่านข่าวมติชน click ที่นี่...
อ่านรายชื่อได้ที่นี่...
ผ่อนรถไม่ไหว อยากจะคืนรถทำอย่างไร ทนายพรนารายณ์ ทุยยะค่าย 6 มีค. 67 &nb...
CLICK ที่นี่...
ค้นหากดที่นี่...
CLICK ที่นี่...